4 CEO กระดานเทรดคริปโตในไทย ที่มีใบอนุญาต 2567

ประเทศไทยได้กลายเป็นศูนย์กลางสำหรับการเทรดซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนตัวเลขของกระดานเทรด และจำนวนสินทรัพย์ (เหรียญ) ที่สามารถเทรดได้ก็เพิ่มมากขึ้น กระดานเทรดเหล่านี้ช่วยให้นักลงทุนและนักเทรดสามารถเข้าถึงประเภทสินทรัพย์ใหม่ ๆ พร้อมกับมีฟีเจอร์ และบริการที่หลากหลาย ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเทรดทุกระดับ ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงระดับเซียน

ในบทความนี้ เราขอเสนอเว็บไซต์เทรดคริปโตเคอเรนซีในไทยที่ ได้ได้รับความนิยม และมีใบรับรองจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “กลต.” ให้กับนักลงทุนมือใหม่ที่กำลังเลือกว่าจะเทรดกับที่ไหนดี ไว้ให้ได้พิจารณากัน จะมีเว็บไหน เจ้าไหนกันบ้าง ไปอ่านต่อพร้อมกันได้เลย

สารบัญ บทความ

วิธีการเลือกกระดานเทรดเบื้องต้น

โดยปกติแล้วในการเลือกกระดานเทรด หรือแพลตฟอร์มไม่ว่าจะทั้งในประเทศไทยหรือต่างประเทศ เราควรให้ความสำคัญกับเรื่อง ความปลอดภัย เชื่อเสียงของแพลตฟอร์ม ความง่ายในการใช้งาน จำนวนเหรียญหรือสินทรัพย์ที่รองรับ ค่าธรรมเนียม การบริการลูกค้า เป็นหลัก แต่ทั้งนี้ก้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกให้พิจารณา

ในกรณีรายชื่อกระดานเทรดที่เราจะยกมาในบทความนี้ ได้ทำการจดทะเบียนกับ กลต. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้เรามั่นใจในระดับหนึ่งในเรื่องของความปลอดภัย เพราะหน้าที่ของ กลต. คือคอยควบคุมแพลตฟอร์มที่จดทะเบียนให้ปฏิบัติภายใต้กฎหมายไทย และคุ้มครองนักลงทุนเป็นหลัก

รูปที่ 1 ทั้ง 4 บริษัทถือว่าจดทะเบีนยกับ กลต. ในเวลาใกล้เคียงกัน แต่ทุนจดทะเบียน แต่เงื่อนไขต่างๆ รวมไปถึงค่าธรรมเนียมในการถอนเงินไม่เท่ากัน

BitKub

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเว็บไซต์เทรดเหรียญคริปโตที่มาแรงที่สุด เป็นที่พูดถึงมากที่สุด และปัจจุบันยังมีบัญชีผู้ใช้งานมากที่สุดในประเทศไทย เปิดตัวเริ่มต้นการใช้งานครั้งแรกเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2561 โดยมีเจ้าของคือ คุณท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา CEO ของบริษัท Bitkub ที่เราอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี

Bitkub สามารถใช้งานได้ทั้งในคอมพิวเตอร์ และ แอปพลิเคชันทั้ง IOS และ Andriod แต่ต้องทำการสมัครและยืนยันตัวตน (KYC) เพื่อทำการเปิดบัญชีกับ Bitkub เมื่อผ่านการอนุมัติแล้วก็สามารถเริ่มต้นเทรดได้เลย ซึ่งรายละเอียดการฝากถอนมีดังนี้

ณ วันที่บทความนี้เขียนอยู่ Bitkub มีประมาณการซื้อขายเหรียญของทั้งกระดานอยู่ที่ $78,238,390 ดอลล์ล่าสหรัฐ หรือประมาณ 2,700,000 ล้านบาท ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงล่าสุด มีเหรียญในกระดานทั้งหมด 79 สกุล โดยคู่เหรียญที่มีการซื้อขายมากที่สุดคือ USDT/THB คิดเป็น $20,924,684 ดอลล์ล่าสหรัฐ หรือประมาณ 724 ล้านบาท มีเหรียญ Governance Token ประจำแพลตฟอร์มคือ KUB

ZIPMEX

อีกหนึ่งเจ้าที่ทำการตลาดอย่างหนักเพื่อดึงดูดนักลงทุนและนักเทรดให้เข้ามาใช้บริการ Zipmex จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ปี 2561 ด้วยทุนจดทะเบียน 112 ล้านบาท โดยมี ดร. เอกลาภ ยิ้มวิไล และ นาย ตรัยคุณ ศรีหงส์ ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท

ถึงแม้จะเกิดเหตุการการระงับการถอนเงินออกจากตัวแพลตฟอร์ม เพราะปัญหาเรื่องสภาพคล่องตัวโปรดักต์ ZipUp+ แต่ก็สามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด จนพลิกให้ Zipmex สามารถกลับมาเปิดให้บริการตามปกติได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ต้องของคุณความสามารถ และทักษะการแก้ปัญหาของ ดร. เอกลาภ และ ผู้บริหารระดับสูงในองค์กรทุกคน

Zipmex มีเหรียญที่สามารถเทรดบนกระดานได้ทั้งหมด 108 สกุล มีปริมาณการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ $851,025 ดอลล์ล่าสหรัฐ หรือประมาณ 30 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมในการเทรดอยู่ที่ 0.2% ต่อครั้ง มีเหรียญ Governance Token ประจำแพลตฟอร์มคือ ZMT ปัจจุบันมีเหรียญที่สามารถซื้อขายบนกระดานได้ทั้งหมด 90 สกุล

รูปที่ 2 ทั้ง 4 กระดานเทรดเปืดให้ใช้งานทั้งทั้งในคอมพิวเตอร์ และแอปพลิเคชั่นในโทรศัพท์ทั้งระบบ IOS และ Andriod

Satang Pro

นาย ปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้ง Satang Pro ก่อนหน้านี้มีดีกรีเป็นถึงผู้ร่วมสร้าง Zcoin (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นเหรียญ FIRO) ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่เน้นความเป็นส่วนตัว โดยได้ร่วมมือกับรัฐบาลไทยเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมดิจิทัลและส่งเสริมความปลอดภัยของสินทรัพย์ดิจิทัล

และได้นำประสบการณ์ ความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับความต้องการของลูกค้า และความร่วมมือกับรัฐบาลไทยก่อนหน้านี้ Satang Pro จึงภูมิใจและมั่นใจว่ามีความพร้อมในการบริการ และอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน และนักเทรดทุกคนในตลาดประเทศไทย

Satang Pro จดทะเบียนกับกลต. เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2560 ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท มีปริมาณการซื้อขายทั้งหมดในกระดานอยู่ที่ $1,049,620 ดอลล์ล่าสหรัฐ หรือประมาณ 35 ล้านบาทต่อวัน (ณ วันที่บทความนี้ถูกเขียนอยู่) ปัจจุบันมีเหรียญที่สามารถซื้อขายบนกระดานได้ทั้งหมด 39 สกุล มีค่าธรรมเนียมการเทรดอยู่ที่ 0.25% ต่อการเทรดต่อครั้ง

Bitazza

หนึ่งในบริษัทที่เป็นหัวหอกเรื่องคริปโตเคอเรนซีในประเทศไทยในช่วงแรกๆ นำทัพโดยนาย อาร์ท กวิน พงษ์พันธ์เดชา CEO ของ Bitazza ดีกรีปริญญาตรีด้าน วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เศรษฐศาสตร์ และสถิติศาสตร์ รวมทั้งหมดแล้ว 3 ใบ และยังเคยทำงานในตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาอย่าง Wall Street และในปี 2022 Forb ได้จัดอันดับให้คุณอาร์ทติดโพล 30 Under 30 Asia บุคคลดาวรุ่งด้านการเงินที่อายุน้อยกว่า 30

กระดานเทรดของ Bitazza จะถูกแบ่งออกเป็นสองกระดานคือ ฝั่งประเทศไทย (Bitazza TH) และ ฝั่งต่างประเทศ (Bitazza Global) ซึ่งหากต้องการจะใช้งานทั้ง 2 กระดาน จำเป็นจะต้องโหลดปอปพลิอคชันของทั้ง TH และ Global แต่สามารถโอนเหรียญระหว่าง 2 กระดานได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม

Bitazza จดทะเบียนกับ กลต. เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2561 ด้วยทุนจดทะเบียน 45 ล้านบาท มีค่าธรรมเนียมการเทรดอยู่ที่ 0.25% ต่อการเทรดต่อครั้ง ปริมาณการเทรดทั้งกระดานอยู่ที่ $8,502,829 ดอลล์ล่าสหรัฐ หรือประมาณ 290 ล้านบาท (ณ วันที่บทความนี้กำลังเขียนอยู่) มีเหรียญ 67 สกุล และ 167 คู่เหรียญในกระดาน และมี Governance Token ประจำแพลตฟอร์มคือ BTZ

สรุป

ถึงแม้ว่าทุกกระดานและทุกบริษัทจะได้รับการรับรองจาก กลต. และได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายประเทศไทยแล้ว ทำให้มั่นใจได้ระดับหนึ่งว่ามีความปลอดภัย และมั่นใจในการใช้บริการได้ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีความต่างในเรื่องของการความยากง่ายในการใช้งาน ค่าธรรมเนียม คุณสมบัติ จำนวนสกุลเงิน การบริการลูกค้า และอื่น ๆ อีก นักเทรดและนักลงทุนควรศึกษาและหาช่องทางที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด