พื้นฐานการใช้งาน Python ขั้นตอนการติดตั้ง วิธีใช้งาน สำหรับนักลงทุน

ในยุคดิจิทัลนี้ นักลงทุนหลายคนหันมาใช้เครื่องมือเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุน หนึ่งในเครื่องมือที่กำลังได้รับความนิยมมากคือภาษา Python ซึ่งเป็นภาษาที่มีความยืดหยุ่น เรียนรู้ได้ง่าย และมีชุมชนที่ใหญ่ที่พร้อมสนับสนุนการเรียนรู้สำหรับผู้เริ่มต้น

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับการใช้งาน Python เบื้องต้นสำหรับนักลงทุน เพื่อให้คุณสามารถนำไปปรับใช้กับการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินและสร้างเครื่องมือวิเคราะห์ของคุณเองได้

“The future of equity investing will be defined by the successful integration of human and machine intelligence”

          Yana Kramer

(Client Portfolio Manager Voya Machine Intelligence)

Python คืออะไร และทำไมนักลงทุนควรเรียนรู้

Python เป็นภาษาการเขียนโปรแกรมที่ได้รับความนิยมในหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science), ปัญญาประดิษฐ์ (AI), หรือการเงิน มีจุดเด่น คือ ใช้งานง่าย มีเครื่องมือที่หลากหลาย และสามารถใช้ในการประมวลผลข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ได้

นักลงทุน หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลทางด้านต่างๆ และถ้าท่านใดที่เป็นนักลงทุนมาเป็นระยะเวลายาวนานจะทราบดีว่า “งานการจัดการข้อมูลในการลงทุนเป็นงานที่เหนื่อยและเสียเวลา” ดังนั้นจะดีกว่าไหมถ้าเรามีเครื่องทุ่นแรงเข้ามาช่วยจัดการปัญหานี้ให้เรา

ตัวอย่าง หากเรามีไฟล์ข้อมูลที่แสดงถึง ราคาเปิด/ปิด และ ปริมาณวอลุ่มของสินทรัพย์ตัวหนึ่งและข้อมูลนั้นมีจำนวนที่มาก การจะใช้คอมพิวเตอร์ธรรมดาในการแก้ไขหรือวิเคราะห์ข้อมูลผ่านโปรแกรมพื้นฐานอย่าง excel นั้นอาจจะมีปัญหาต่างๆที่ตามมาไม่ว่าจะเป็นอาการช้าหน่วงหรือกระตุกเกิดขึ้นได้ แต่ในทางกลับกันถ้าเรานำข้อมูลชุดเดียวกันนี้ไปประมวลผลใน python ก็จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว อีกทั้งยังมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดได้ยากกว่าอีกด้วย

แต่ปัญหาของ python เนื่องจาก มันมีความหลากหลายในการใช้งาน “แล้วอะไรล่ะที่นักลงทุนควรรู้หรือไม่ควรรู้ ?” ในบทความนี้มีคำตอบ ดังนั้นแล้วเราไปเริ่มต้นกันที่ขั้นตอนพื้นฐานการใช้งาน python กันเลยครับ

ขั้นตอนการใช้งาน python พื้นฐานและ library ที่ควรมีสำหรับสายลงทุน

1. ติดตั้งโปรแกรม python โดยไปที่ website : python.org คลิกเลือก downloads โดยให้เลือกตามระบบปฏิบัติการที่ตนมีอยู่

2. การใช้งานครั้งนี้เราจะใช้ AI ในการช่วยเขียนโค้ด ทำการ download visual studio code ผ่านเว็บไซต์ : https://code.visualstudio.com/

3. ทำการสมัครใช้งาน github copilot ซึ่งเป็นผู้ช่วย AI ผ่านเว็บไซต์ : https://github.com/features/copilot
4. เมื่อสมัครใช้งานแล้วกลับมาเปิด visual studio code ในช่อง extensions พิมพ์ Github copilot ทำการติดตั้ง (ให้ทำการ Login visual studio code ผ่าน github ที่เพิ่งได้ลงทะเบียนไป)

5. วิธีการใช้งานง่ายมากครับ ทำการกด New file และกด jupyter notebook

6. สิ่งที่เราต้องรู้ต่อมาคือวิธีการติดตั้ง library และการเรียกใช้งาน เนื่องจากในบทความต่อไป เราจะมี library ในการลงทุนต่างๆ มาแนะนำกับนักลงทุน

• การติดตั้ง library ในช่อง terminal ด้านล่าง
  • สำหรับ window พิมพ์ pip install (library name) เช่น เราต้องการลง library ของ pandas – pip install python
  • สำหรับ macos พิมพ์ pip3 install (library name) เช่น เราต้องการลง library ของ pandas – pip3 install python
• การเรียกใช้งาน library พิมพ์ import (library name) as (ตัวย่อ) เช่น เราต้องการเรียกใช้งาน pandas พิมพ์ import pandas as pd

การใช้ AI ช่วยในการเขียนโค้ด แบบไม่ต้องมีความรู้เรื่องโค้ด

อ่านแล้วอาจจะเอ๊ะ “แบบนี้ก็ได้เหรอ ?” หากเราไม่มีความรู้เรื่องโค้ด เราจะเขียนโค้ดได้อย่างไร ไม่ต้องกลัวครับเราจะใช้ AI วิธีการง่ายมากๆ

ผมจะยกตัวอย่างว่า เราอยากจะนำเข้าไฟล์ excel ตัวหนึ่ง แต่เราไม่ทราบโค้ดเราจะทำได้ดังนี้

1. พิมพ์ #นำเข้าไฟล์ใบเสร็จรับเงิน หลังจากนั้นกด enter
2. จะปรากฎโค้ดบางๆ ขึ้น เรากด tab เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เราสามารถใช้วิธีการนี้กับการทำอย่างอื่นก็ได้ เช่น อยากจะนำข้อมูลที่เราได้มาสร้างกราฟของผลกำไรกับต้นทุน หรือปรับแก้ข้อมูลต่างๆในไฟล์ excel ก็ได้

สรุป

Python เป็นภาษาโปรแกรมที่ใช้งานง่ายและทรงพลังสำหรับนักลงทุน โดยมีความสามารถในการจัดการข้อมูลและวิเคราะห์ทางการเงินได้อย่างรวดเร็ว Python มี library มากมายที่ช่วยในการจัดการข้อมูลและวิเคราะห์ เช่น pandas สำหรับจัดการข้อมูลตาราง, numpy สำหรับคำนวณทางคณิตศาสตร์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถพัฒนาอัลกอริธึมในการวิเคราะห์และสร้างระบบเทรดอัตโนมัติด้วยการใช้ AI เพื่อช่วยในการตัดสินใจที่แม่นยำยิ่งขึ้น

ในด้าน AI เราสามารถใช้ github copilot มาช่วยในการเขียนโค้ดทำให้การเขียนโค้ดมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักลงทุนพัฒนากลยุทธ์การลงทุนได้ง่ายขึ้นและมีศักยภาพในการทำกำไรสูงขึ้นจากการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ.