รีวิว ZFX ดีไหม น่าเชื่อถือไหม Copytrade ดีไหม

โบรกเกอร์ที่รู้จักกันดีในตัวอักษรย่อที่ว่า ZFX นั้น ถูกย่อมาจากคำว่า Zeal Capital Market ซึ่งเป็นสถาบันนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างประเทศที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงลอนดอน และมีสำนักงานย่อยอีก 8 แห่งในโซนเอเชียและยุโรป เราจึงอยากจะขอไปทำความรู้จักในงานบริการด้านการเทรดว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูให้ชัดเจนกันเลย

 

“การลงทุนกับ FOREX มีทั้งได้และเสียเป็นธรรมชาติ ถ้าลงทุนพลาดเราอาจจะได้แผล แต่ถ้ายอมแพ้เราอาจจะไม่ได้อะไรเลย”

 


สารบัญ บทความ

โบรกเกอร์ ZFX คืออะไร ?

Zeal Capital Market หรือ ZFX คือ โบรกเกอร์ Forex & CFDs ระหว่างประเทศที่มีสำนักงานใหญ่ในประเทศอังกฤษ และยังมีสำนักงานย่อยอีกในสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ประเทศไทย อินเดีย ออสเตรเลีย และอิสราเอล

จุดเด่นของโบรกเกอร์ ZFX อยู่ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยให้การซื้อขายมีความรวดเร็วและแม่นยำ มีสภาพคล่องที่สูง ช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้อย่างต่อเนื่อง และมีค่าสเปรดที่ต่ำ ช่วยให้นักลงทุนประหยัดค่าธรรมเนียมในการเทรดที่ดีด้วย

รูปที่ 1 มีสาขาย่อยในประเทศอินโดนีเซีย โบรกเกอร์ ZFX

ข้อดี – ข้อเสีย ของโบรกเกอร์ ZFX

ZFX เป็นโบรกเกอร์ Forex & CFDs ที่ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์หลายรายการแก่ลูกค้าใน 3 ทวีป ซึ่งมีจุดเด่นหลายด้าน จัดว่าเหมาะสำหรับนักเทรดทุกระดับประสบการณ์ก็ว่าได้ ส่วนข้อดี – ข้อเสีย จะเป็นเช่นไรบ้างนั้น จะขอนำเสนอข้อมูลที่มี ที่ได้สัมผัสแล้วมาบอกต่อกัน ดังนี้

ข้อดี โบรกเกอร์ ZFX

  • ใช้เทคโนโลยีการเข้าถึงสภาพคล่องในตลาดโลก ที่ชื่อว่า Multiple Liquidity Providers into One Pool ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการจับคู่ที่เร็วเป็นพิเศษ ช่วยให้คำสั่งซื้อขายของเทรดเดอร์สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
  • มีอัตรา Spread ต่ำ เริ่มต้นที่ 0.0 pips สำหรับบัญชี ECN เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการต้นทุนการซื้อขายที่ต่ำ
  • ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่ง เช่น CySEC (ไซปรัส), FCA (สหราชอาณาจักร), และ ASIC (ออสเตรเลีย) ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าเงินฝากของจะได้รับการคุ้มครองแน่นอน
  • บริการลูกค้าที่ดี ZFX มีบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น แชทสด อีเมล และโทรศัพท์

ข้อเสีย โบรกเกอร์  ZFX 

  • ZFX เสนอคู่สกุลเงินที่ซื้อขายได้เพียง 64 คู่เท่านั้น เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่น ๆ ที่เสนอคู่สกุลเงินที่ซื้อขายได้มากกว่า 100 คู่
  • ไม่อนุญาตให้นักเทรดทำการเทรดแบบ Hedging ซึ่งอาจทำให้นักเทรดบางกลุ่มไม่สะดวกในการทำกำไร
  • ไม่มีแพลตฟอร์ม MT5 ZFX ให้บริการเฉพาะแพลตฟอร์ม MT4 เท่านั้น ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับนักเทรดบางคนที่ต้องการใช้แพลตฟอร์ม MT5
รูปที่ 2 โบรกเกอร์ ZFX เคยได้รับรางวับ Best Trading Service ของประเทศไทย

ความน่าเชื่อถือของ ZFX

ZFX เป็นโบรกเกอร์ Forex & CFDs ที่น่าสนใจเพราะมีข้อดีหลายด้าน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญคือนักเทรดควรศึกษาความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเปิดบัญชีซื้อขาย ต่อไปนี้เป็นปัจจัยที่นักเทรดควรพิจารณาเพื่อประเมินความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ Forex

ปีที่ก่อตั้ง / อายุของการให้บริการด้าน Forex

ZFX เป็นโบรกเกอร์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 มีสำนักงานใหญ่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และมีสำนักงานย่อยอีก 8 แห่งในโซนเอเชียและยุโรป ดังนั้น จนถึงปัจจุบัน ZFX มีการให้บริการด้าน Forex มาแล้วเป็นเวลา 6 ปี

License / คะแนน Trustpilot

ZFX ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่ง ได้แก่:

  • CySEC: Cyprus Securities and Exchange Commission ภายใต้หมายเลขใบอนุญาต 336/17
  • FCA: Financial Conduct Authority ภายใต้หมายเลขใบอนุญาต 60987
  • ASIC: Australian Securities and Investments Commission ภายใต้หมายเลขใบอนุญาต 432691

คะแนน Trustpilot ของ ZFX คือ 3.0 จาก 5 ดาว โดยมีรีวิวอยู่ที่ 41 รีวิว รีวิวส่วนใหญ่ของ ZFX นั้นอยู่ในเชิงบวก โดยนักเทรดส่วนใหญ่ยกย่องถึงเทคโนโลยีการเข้าถึงสภาพคล่องในตลาดโลก อัตรา Spread ต่ำ และบริการลูกค้าที่ดี

รูปที่ 3 คะแนน Trustpilot ของโบรกเกอร์ ZFX

Scam และข่าวด้านการโกง/การตุกติกของ ZFX

ZFX เป็นโบรกเกอร์ที่มีคุณสมบัติและบริการที่ดูโดยรวมแล้วมีความน่าเชื่อถือ เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับประสบการณ์ มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และให้บริการที่หลากหลาย ดังนั้น Scam และข่าวด้านการโกงหรือการตุกติกของ ZFX จึงยังไม่มี ยังหาข้อมูลจากรีวิวหรือการพาดพิงใด ๆ ในโลกออนไลน์ไม่เจอ

ประเภทบัญชี  ZFX  

ZFX มีประเภทบัญชีซื้อขายทั้งหมด 3 ประเภท ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทบัญชี ZFX แต่ละประเภท

บัญชี ZFX Cent

บัญชี ZFX Cent เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นการซื้อขายด้วยเงินลงทุนจำนวนน้อย บัญชีนี้ใช้หน่วยวัดสกุลเงินเป็นเซ็นต์ ทำให้สามารถเริ่มต้นการซื้อขายด้วยเงินทุนเพียง $15 โดยมีข้อดีดังต่อไปนี้

  • เงินฝากขั้นต่ำเพียง $15
  • สเปรดเริ่มต้นที่ 1.5
  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  • เลเวอเรจสูงสุด 1:2000

บัญชี ZFX Standard STP

บัญชี ZFX Standard STP เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์ระดับกลางที่ต้องการความยืดหยุ่นในการซื้อขาย บัญชีประเภทนี้มีข้อดีดังต่อไปนี้

  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  • สเปรดเริ่มต้นที่ 1.3 pip
  • เลเวอเรจสูงสุด 1:500

บัญชี ZFX ECN

บัญชี ZFX ECN เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพที่ต้องการสเปรดที่ต่ำที่สุด บัญชีประเภทนี้มีการคิดค่าคอมมิชชั่นเริ่มต้นที่ 3.5 pip แต่มีค่าสเปรดต่ำสุดที่ 0.2 pip บัญชี ZFX ECN มีข้อดีดังต่อไปนี้

  • สเปรดต่ำสุดที่ 0.2 pip
  • เงินฝากขั้นต่ำ $500
  • เลเวอเรจสูงสุด 1:500
รูปที่ 4 เปรียบเทียบความแตกต่างของบัญชีเทรดโบรกเกอร์ ZFX

ภาพรวมการเทรด ความลื่นไหล กราฟค้าง? ลากไส้เทียน?

การเทรด Forex ถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากราคาสินทรัพย์มีความผันผวน ดังนั้นภาพรวมการเทรดของโบรกเกอร์จึงควรศึกษาข้อมูลอย่างดี อย่างรอบคอบ โดยพิจารณาจากข้อมูลดังต่อไปนี้

ความลื่นไหลในการเทรด

ความลื่นไหลในการเทรดด้วยแพลตฟอร์มของ ZFX ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชี สเปรด และสภาพตลาด โดยทั่วไปแล้ว บัญชี Cent จะมีสเปรดที่กว้างกว่าบัญชี Standard STP และ ECN ดังนั้น ความลื่นไหลในการเทรดจึงอาจไม่ดีเท่ากับบัญชีประเภทหลัง

Requotes (รีโควต) บ่อยไหม

ตามข้อมูลของ ZFX รีโควตเกิดขึ้นน้อยมากในแพลตฟอร์มการซื้อขายของ ZFX โดย ZFX ระบุว่า Requotes (รีโควต) จะเกิดขึ้นเพียงประมาณ 0.01% ของคำสั่งทั้งหมดเท่านั้น

กราฟค้างบ่อยไหม / ลากไส้เทียนมากิน stop loss บ่อยไหม

ส่วนใหญ่โดยปกติ กราฟของ ZFX มีความราบรื่นดี อย่างไรก็ตาม ก็มีบางครั้งที่กราฟมีอาการค้างเล็กน้อย หรือมีรูปแบบไส้เทียนมากิน stop loss ที่ตั้งเอาไว้ แต่จะเป็นการจงใจลากมากินหรือไม่นั้น ยังพิสูจน์ไม่ได้

Slippage บ่อยไหม

การลื่นไถล (Slippage) โดยสรุปแล้ว ZFX มีการลื่นไถลค่อนข้างน้อย อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีการประกาศข่าวสำคัญก็มีเกิดการลื่นไถลเช่นกัน ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิด Slippage ในตอนที่ประกาศข่าวใหญ่ ๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงจะดีกว่า

ระดับ Stop out ของ ZFX

ระดับ Stop out ของโบรกเกอร์ ZFX มีข้อกำหนดเอาไว้ ดังนี้

  • บัญชี Cent ระดับ Stop out อยู่ที่ 20%
  • บัญชี Standard STP ระดับ Stop out อยู่ที่ 30%
  • บัญชี ECN ระดับ Stop out อยู่ที่ 50%
รูปที่ 5 รายการความแตกต่างแต่ละบัญชีเทรดของโบรกเกอร์ ZFX

ค่าบริการรวม: Spread commission swap

ค่าบริการรวมของการเทรดกับโบรกเกอร์ ZFX จะประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้

Spread

สเปรดคือการคิดค่าบริการจากส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายของคู่เงิน โบรกเกอร์ ZFX จะเรียกเก็บค่า Spread แตกต่างตามคู่เงินที่เทรด จะคิดไม่เท่ากัน

Commission

โบรกเกอร์ ZFX เรียกเก็บค่า Commission 0.00% สำหรับบัญชี Cent และ 0.001% สำหรับบัญชี Standard STP และ ECN

Swap

โบรกเกอร์ ZFX เรียกเก็บค่า Swap สำหรับคู่เงินบางคู่เท่านั้น โดยค่า Swap จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการซื้อขาย

ประเภทบัญชีก็มีส่วนกับ บัญชี Mini มี Spread ที่กว้างกว่าบัญชี Standard STP และ ECN แต่มีค่า Commission ที่ต่ำกว่า ถ้าใครต้องการหลีกเลี่ยงค่า Swap ก็แค่ปิดสถานะการซื้อขายทั้งหมดก่อนสิ้นวันทำการ

 

 

บัญชีที่แนะนำของ ZFX

สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการประหยัดต้นทุนในการเทรดให้มากที่สุด แนะนำให้ใช้บัญชี Standard STP ร่วมกับกลยุทธ์การซื้อขายที่ช่วยลดความเสี่ยง เช่น การเทรดด้วยเลเวอเรจต่ำ หรือการใช้ stop loss และไม่ถือข้ามวัน ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการคำนวณต้นทุนในการเทรด

ตัวอย่างการเทรด EURUSD

ประเภทบัญชี: Standard STP

  • ผลิตภัณฑ์: EUR/USD
  • ปริมาณ: 1 ล็อต
  • ระยะเวลาถือครอง: 1 วัน
  • ค่าสเปรด = 0.1 pips * 100 USD/pip = 1 USD
  • ค่าคอมมิชชั่น = ฟรี
  • ค่าสวอป = 1.5 USD

ต้นทุนในการเทรด = 1 USD + 1.5 USD = 2.5 USD

ด้วยคู่เงินเดียวกัน หากเทรดเดอร์เทรด EUR/USD จำนวน 1 ล็อต เป็นเวลา 1 วัน โดยใช้บัญชี Standard STP ต้นทุนในการเทรดจะอยู่ที่ 2.5 USD ในขณะที่การใช้บัญชี Mini ต้นทุนในการเทรดจะอยู่ที่ 5 USD และการใช้บัญชี ECN ต้นทุนในการเทรดจะอยู่ที่ 4 USD

รูปที่ 6 เลเวอเรจสูงสุดของโบรกเกอร์ ZFX จะแตกต่างกันตามจำนวน Equity ของบัญชีเทรด

Platform ที่ใช้งาน

ZFX ให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขาย MetaTrader 4 (MT4) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เชื่อว่าใครที่เคยเทรด Forex ต้องเคยผ่านการใช้งาน MT4 มาแล้วแน่นอน

นอกจากนี้ ZFX ยังมีแพลตฟอร์มการซื้อขาย ZFX Trader ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุด ZFX Trader มีคุณสมบัติที่หลากหลาย รวมถึงการซื้อขายอัตโนมัติ การซื้อขายทางสังคม และการวิเคราะห์ทางเทคนิค

 

 

การฝาก-ถอน

ZFX ให้บริการช่องทางการฝาก-ถอนเงินที่หลากหลาย เพื่อให้เทรดเดอร์สามารถเลือกช่องทางที่สะดวกและปลอดภัยที่สุดสำหรับตนเอง ซึ่งช่องทางการฝากเงินของ ZFX มีดังนี้

  • บัตรเครดิตและเดบิต ZFX รองรับบัตรเครดิตและเดบิตหลักๆ ทั้งหมด เช่น Visa, Mastercard, American Express และ UnionPay
  • โอนเงินผ่านธนาคาร ZFX รองรับการโอนเงินผ่านธนาคารหลายธนาคารในประเทศไทย เช่น ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารไทยพาณิชย์
  • e-Wallet ZFX รองรับ e-Wallet หลัก ๆ ทั้งหมด เช่น Skrill, Neteller และ Perfect Money

ความเร็วในการฝาก-ถอน

ความเร็วในการฝาก-ถอนเงินของ ZFX ขึ้นอยู่กับช่องทางการฝาก-ถอนเงินที่เลือก โดยจะมีรายละเอียดดังนี้

  • บัตรเครดิตและเดบิต: ทันที
  • โอนเงินผ่านธนาคาร: 1-3 วันทำการ
  • e-Wallet: ทันที

โดยสรุปแล้ว ความเร็วในการฝาก-ถอนเงินของ ZFX ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เทรดเดอร์สามารถทำการฝาก-ถอนเงินได้อย่างรวดเร็วและสะดวกมาก ซึ่งขึ้นอยู่กับช่องทางการฝาก-ถอนเงินที่เลือก

รูปที่ 7 ช่องทางการฝากเงินของโบรกเกอร์ ZFX มีบริการหลายช่องทาง เช่น China UnionPay เป็นต้น

ค่าบริการ / Rate ฝาก-ถอน

ZFX ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากเงิน แต่จะมีค่าธรรมเนียมการถอนเงินเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับช่องทางการถอนเงินที่เลือก โดยจะมีการคิดค่าธรรมเนียมการถอนเงิน ดังนี้

  • โอนเงินผ่านธนาคาร: ค่าธรรมเนียมการถอนเงินผ่านธนาคารในประเทศไทยอยู่ที่ 100 บาทต่อรายการ
  • e-Wallet: ค่าธรรมเนียมการถอนเงินผ่าน e-Wallet ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ e-Wallet ที่เลือกใช้ เทรดเดอร์สามารถตรวจสอบค่าธรรมเนียมการถอนเงินจากผู้ให้บริการ e-Wallet โดยตรง

วิธีการ ฝาก – ถอน ZFX

ขั้นตอนในการจัดการทางการเงิน ทำได้ง่าย ๆ ผ่านทางหน้าเว็บของโบรกเกอร์เลย ซึ่งมีวิธีการฝากเงินและถอนเงินของ ZFX มีดังนี้

  • เข้าสู่ระบบ MyZFX
  • คลิกที่ “การฝากเงิน” หรือ “การถอนเงิน”
  • เลือกช่องทางการฝากหรือถอนเงินที่ต้องการ
  • กรอกข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการฝากเงินหรือการถอนเงิน
  • ยืนยันการฝากหรือถอน

ตัวอย่างการฝากเงินด้วยการโอนเงินผ่านธนาคาร

  • เข้าสู่ระบบ MyZFX
  • คลิกที่ “การฝากเงิน”
  • เลือก “โอนเงินผ่านธนาคาร”
  • กรอกข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการฝากเงิน ได้แก่ ชื่อธนาคาร เลขที่บัญชีธนาคาร ประเภทบัญชีธนาคาร และจำนวนเงินที่ต้องการฝาก
  • ยืนยันการฝากเงิน
รูปที่ 8 โบรกเกอร์ ZFX มีบริการบันทึกประวัติการเทรดของลูกค้าให้ติดตามผลงานการเทรดของตัวเองด้วย

Copy Trade ของ ZFX เป็นอย่างไร

Copy Trade ของ ZFX เป็นบริการที่ช่วยให้ผู้ที่สนใจสามารถคัดลอกการซื้อขายของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้เทรดเดอร์ที่ไม่มีประสบการณ์หรือเวลาในการเทรดสามารถลงทุนในตลาดการเงินได้ ซึ่งคุณสมบัติของ Copy Trade ของ ZFX พอจะชี้แจงได้ดังนี้

  • คัดลอกการซื้อขายของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้แบบเรียลไทม์
  • เลือกเทรดเดอร์ที่ต้องการคัดลอกได้เอง
  • ปรับแต่งการคัดลอกการซื้อขายได้ตามต้องการ
  • มีระบบป้องกันความเสี่ยง
  • มีข้อมูลและสถิติการซื้อขายของเทรดเดอร์ที่คัดลอก

 

 

ขั้นตอนการใช้งาน Copy Trade ของ ZFX

ใครที่สนใจ ก็สามารถจัดการตามขั้นตอนการใช้งาน Copy Trade ของ ZFX ได้ ด้วยขั้นตอนดังนี้

  • เปิดบัญชีกับ ZFX
  • ฝากเงินเข้าบัญชี
  • ดาวน์โหลดและติดตั้งแพลตฟอร์มการซื้อขายของ ZFX
  • เข้าสู่ระบบแพลตฟอร์มการซื้อขาย
  • ค้นหาเทรดเดอร์ที่ต้องการคัดลอก
  • ตั้งค่าการคัดลอกการซื้อขาย

ข้อดีของ Copy Trade ของ ZFX

ทีนี้มาดูกันว่าจะได้ประโยชน์แบบไหนบ้าง กับข้อดีของ Copy Trade ของ ZFX

  1. ช่วยให้เทรดเดอร์ที่ไม่มีประสบการณ์หรือเวลาในการเทรดสามารถลงทุนในตลาดการเงินได้
  2. ช่วยลดความเสี่ยงในการเทรด
  3. ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเรียนรู้จากเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ
  4. ข้อเสียของ Copy Trade ของ ZFX
  5. เทรดเดอร์ที่คัดลอกอาจประสบการขาดทุนได้
  6. เทรดเดอร์ที่คัดลอกควรทำความเข้าใจความเสี่ยงของการเทรดก่อนใช้งาน

โดยสรุปแล้ว จะเห็นได้ว่า Copy Trade ของ ZFX เป็นบริการที่มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ที่ไม่มีประสบการณ์หรือเวลาในการเทรด อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ที่คัดลอกควรรู้ว่ามันมีความเสี่ยงของการเทรดอยู่ด้วย ตามธรรมชาติของตลาด Forex

รูปที่ 9 มีเทรดเดอร์มืออาชีพในโบรกเกอร์ ZFX หลายคนให้เลือก Copy Trade

ช่องทางการติดต่อ / Support

โบรกเกอร์ที่มีชื่อทางการค้าว่า ZFX นั้น เป็นการจัดตั้งขึ้นของกลุ่มบริษัท Zeal ในนาม Zeal Group คือองค์กรที่ประกอบด้วยสถาบันการเงินที่ถูกกฎหมายสากล ที่มีช่องทางการติดต่อ Support ได้ดังนี้

ช่องทางการติดต่อทั้งหมด จะมีเจ้าหน้าที่คอยซัพพอร์ตบริการตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์

 

 

บทสรุป รีวิว โบรกเกอร์ ZFX

กลุ่มบริษัท Zeal ในนาม Zeal Group คือ องค์กรที่ประกอบด้วยสถาบันการเงินที่ถูกกฎหมายสากล ที่มีชื่อด้านโบรกเกอร์ว่า ZFX ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ Forex และ CFDs ที่ได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำหลายแห่ง เช่น FCA สหราชอาณาจักร และ CySEC ประเทศไซปรัส

โบรกเกอร์มีจุดเด่นในด้านเทคโนโลยีการเข้าถึงสภาพคล่องในตลาดโลก ซึ่งได้รวบรวมผู้ให้บริการสภาพคล่องหลายแห่งไว้ด้วยกัน ส่งผลให้การส่งคำสั่งซื้อขายที่เร็วเป็นพิเศษ และไม่มีการรีโควท, ไม่มีการปฏิเสธคำสั่งซื้อขาย ประกอบกับอัตรา Spread ที่ค่อนข้างต่ำ จึงเกิดเป็นข้อได้เปรียบสำหรับนักลงทุน

นอกจากนี้ ZFX ยังให้บริการ Copy Trade ซึ่งเป็นบริการที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถคัดลอกการซื้อขายของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้แบบเรียลไทม์ ช่วยลดความเสี่ยงในการเทรดและช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเรียนรู้จากเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ

โดยสรุปแล้ว ZFX เป็นโบรกเกอร์ Forex & CFDs ที่มีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีการเข้าถึงสภาพคล่องในตลาดโลก มี Spread ที่ต่ำ แต่ก็มีจุดด้อยตรงที่ห้ามการเทรดแบบ Hedging ใครที่รับได้และมองที่มีความน่าเชื่อถือ มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และให้บริการที่หลากหลาย ก็ถือว่า ZFX เป็นทางเลือกที่ดีเลย

 

ทีมงาน: eaforexcenter.com

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *