เทรดทองโบรกไหนดี ? จริงๆแล้วหลักเกณฑ์ในการเลือกโบรกเกอร์จำเป็นต้องใช้หลายๆ องค์ประกอบในการตัดสินใจ ซึ่งค่า Spread เป็นหนึ่งในองค์ประกอบนั้นครับ โดย Spread คือ “ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ (Ask) กับราคาขาย (Bid)” ที่โบรกเกอร์เสนอให้ ซึ่งสมการที่ใช้คำนวณคือ Spread = Ask Price – Bid Price นั่นเองครับ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าราคา Bid = 2,350 ; Ask = 2,352 --> ดังนั้นค่า Spread จึงได้เท่ากับ 2 นั่นเองครับ
แล้วทำไมทุกโบรกเกอร์จะต้องมีส่วนต่าง หรือ Spread ด้วยล่ะ? แน่นอนครับว่าในการทำธุรกิจ ผู้ลงทุนควรจะได้รับผลตอบแทนเป็นกำไร ซึ่งทางโบรกเกอร์เองก็จะกินส่วนต่างตรงนี้นั่นเองครับ ดังนั้นเราสามารถเรียกได้ว่าค่า Spread เป็นค่าธรรมเนียมแฝงสำหรับเทรดเดอร์อย่างเรา และทุกๆการเข้าเทรด เราจะติดลบทันที
ความสำคัญของ Spread
เมื่ออ่านมาตรงนี้แล้วคงจะทราบความสำคัญของต้นทุนแฝงแล้วใช่ไหมครับ แต่ผมขอเสนอความสำคัญในด้านอื่นๆ ของค่า Spread อีกดังนี้ครับ
1. เป็นต้นทุนการเทรดโดยตรง
- ยิ่ง Spread สูง ต้นทุนก็ยิ่งมาก โดยเฉพาะเมื่อเทรดบ่อยหรือเปิดหลายออเดอร์
- เช่น EA ที่เทรด 50 ครั้ง/วัน กับ Spread 30 จุด → เสียต้นทุนไปแล้ว 1,500 จุดต่อวัน!
2. มีผลต่อการตั้ง Stop Loss / Take Profit
- EA บางตัววาง TP/SL แบบแคบ (เช่น 10–20 จุด) → ถ้า Spread 15–20 จุด ก็แทบไม่เหลือกำไร
- EA ที่เข้าออกบ่อย ต้องเจอ Spread ซ้ำซ้อนหลายครั้ง
3. กระทบการวิเคราะห์กลยุทธ์
- หาก Spread มีความ ผันผวนสูง (บางช่วงแคบ บางช่วงกว้าง)
- ทำให้ EA คาดการณ์จุดเข้าหรือออกผิดพลาด เช่น เข้าตลาดช่วงข่าวแล้ว Spread พุ่งจาก 10 → 200 จุด
4. ส่งผลต่อประสิทธิภาพ EA ทุกประเภท
- Scalping EA: ต้องการ Spread ต่ำและเสถียรที่สุด
- Martingale/Grid EA: ต้องการ Spread คงที่ เพื่อคำนวณระดับไม้แม่นยำ
- News EA: ต้องรองรับช่วง Spread พุ่งแรง
- Neural Network EA: ต้องการข้อมูลราคา “บริสุทธิ์” ไม่บิดเบี้ยวจาก Spread ที่ spike
แล้วเราควรเลือกเทรดกับโบรกเกอร์ไหนดี?
จากผลโหวตความนิยมใช้โบรกเกอร์ในกลุ่ม “รีวิวโบรกเกอร์ forex” ของเราพบว่า Top 8 โบรกเกอร์ที่ พี่ๆ เพื่อนๆ สมาชิกนิยมใช้ คือ
อันดับ |
โบรกเกอร์ |
ความนิยม (ร้อยละ) |
1 |
Axi |
25% |
2 |
Exness |
14% |
3 |
Vantage |
14% |
4 |
QRS Global |
11% |
5 |
XM |
6% |
6 |
Tickmill |
6% |
7 |
HFM |
6% |
8 |
IC Markets |
6% |
ดังนั่น เราจึงขอไปเก็บ Data ของโบรกเกอร์เหล่านี้มีวิเคราะห์และนำเสนอครับ ซึ่ง data ที่เก็บมาวิเคราะห์จะเป็นข้อมูลบัญชี Standard ทั้งหมด (ไม่มีค่าคอม) โดยเราจะไล่วิเคราะห์ตามลำดับคือ วิเคราะห์ Close Price, Median Spread, Standard deviation, และ Boxplot ดังนี้ครับ
กราฟแสดง Close Price เทียบกับเวลา (Time Series)
ผลการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่า
- เส้นราคาเกือบทั้งหมดเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน แสดงว่าราคาจากโบรกเกอร์ต่าง ๆ มีความสอดคล้องกันและไม่มีปัญหาเรื่องราคาเพี้ยนหรือ slippage
- โบรกเกอร์ XM เริ่มข้อมูลที่เวลา 08:00 ซึ่งช้ากว่าโบรกเกอร์อื่นที่เริ่มตั้งแต่ 01:00
- โบรกเกอร์ QRS จบข้อมูลเร็วกว่า คือสิ้นสุดที่เวลา 20:00 แทนที่จะเป็น 23:00 เหมือนโบรกเกอร์อื่น ๆ
- สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าแม้ราคาจะสอดคล้องกัน แต่ก็ยังมีข้อแตกต่างในเรื่องของช่วงเวลาที่ข้อมูลพร้อมใช้งาน (GMT ต่างกัน) ซึ่งอาจส่งผลกับการ backtest ของ EA ที่ใช้กรอบเวลาเล็ก ๆ
Median Spread เปรียบเทียบค่ากลางของ Spread XAUUSD
Median Spread คือ ค่ากลางของการกระจายตัวของ Spread โดยไม่ถูกครอบงำด้วยค่าผิดปกติ (Outliers) ซึ่งผลการวิเคราะห์ปรากฏในรูปที่ 2
จากกราฟเปรียบเทียบ พบว่า
- IC Markets และ Tickmill มี Median ต่ำที่สุด (7.3 และ 8.5 จุดตามลำดับ) เหมาะสำหรับ Scalping EA ที่ต้องการต้นทุนต่ำสุด
- Axi และ Exness มี Median ปานกลาง (14.7 และ 15.9 จุด) โดย Exness ได้รับการปรับค่าทศนิยมให้สอดคล้องกับโบรกอื่น
- XM, Vantage, QRS และ HFM มี Median อยู่ในระดับกลางถึงสูง เหมาะกับ Swing หรือ Long-Term EA ที่ไม่เน้น spread ต่ำมาก
นอกจากนี้ Median ยังช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมโดยไม่โดนรบกวนจากค่าสุดโต่ง เช่น spike ขณะข่าวแรง หรือวันหยุดตลาด
Standard Deviation ความผันผวนของ Spread XAUUSD
Standard Deviation (SD) คือ การวัดความแปรปรวนของข้อมูลจากค่าเฉลี่ย หากค่า SD สูง แสดงว่า Spread เปลี่ยนแปลงบ่อย บางช่วงอาจสูง บางช่วงอาจต่ำ ซึ่งไม่เหมาะกับ EA ที่ต้องการความเสถียรของตลาด
ผลจากการเปรียบเทียบ
- IC Markets, Tickmill, และ Axi มี SD ต่ำที่สุด (<1.5 จุด) บ่งชี้ว่า spread คงที่และน่าเชื่อถือ
- Exness มี SD ต่ำมาก (0.32 จุด) หลังปรับหน่วย แสดงว่ากว้างแต่คงที่
- Vantage และ QRS มี SD สูง (6.3 และ 4.6 จุด) ต้องระวังหากใช้ EA ที่ต้องเปิดคำสั่งจำนวนมากในช่วงสั้น
- ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า การเข้าใจ SD มันช่วยให้เราสามารถปรับขนาด lot หรือกำหนดช่วงเวลาทำงานของ EA ได้เหมาะสมยิ่งขึ้นครับ
Boxplot -> แสดง Distribution ของค่า Spread ทองคำ
เนื่องจากการวิเคราะห์ด้วย SD อาจจะยังไม่เพียงพอต่อคำถามของเรา ดังนั้นเราจึงต้องมาทำการวิเคราะห์การกระจายตัวของค่า Spread ด้วย Boxplot กันต่อครับ ซึ่ง Boxplot จะแสดงลักษณะการกระจายของค่า Spread ได้ดี (รูปที่ 4) เพราะ
- เส้นกลางของกล่อง (Median) แสดงค่ากลางของ spread
- ส่วนของกล่อง (Q1 ถึง Q3) แสดงการกระจายของค่าที่อยู่ในช่วง 50%
- จุดที่อยู่นอกกล่องคือ Outliers ซึ่งเป็นค่าที่สูงหรือต่ำผิดปกติ
ผลการวิเคราะห์จาก Boxplot
Vantage
- Median ต่ำกว่า XM เล็กน้อย (~15–20)
- กล่องกว้าง -> แสดงว่า Spread ผันผวนบ่อย
- มีหลาย Outlier -> บ่งบอกว่าบางช่วง Spread ต่ำกว่าค่ากลางอยู่บ่อยครั้ง
- เหมาะกับ: EA ทุกประเภทโดยเฉพาะ Heding เนื่องจาก Vantage เป็นประเภท Full hedging คือ Margin จะหักล้างเมื่อเปิด position buy และ sell -> ผลลัพธ์ คือ เราจะรักษา margin ได้ดี
XM
- Median อยู่ระดับสูงกว่าหลายโบรก (~28–30)
- กล่องแคบ -> กระจายตัวต่ำ -> เสถียรดี
- มี Outlier เล็กน้อย
- เหมาะกับ: EA ที่เน้นเสถียร เช่น Hedging, Level Trading, Grid trading
Axi
- Median ต่ำ (~13–15)
- กล่องแคบ -> ความผันผวนต่ำ
- มี Outlier น้อยมาก
- เหมาะกับ: EA ทุกประเภท โดยเฉพาะ Scalping, Neural Networks, Trend EA
Tickmill
- Median ต่ำ (~10)
- กล่องแคบมาก -> เสถียรสูง
- มี Outlier บ้าง (แต่ไม่รุนแรง)
- เหมาะกับ: Scalping EA, Arbitrage, News-based EA
QRS
- Median ค่อนข้างสูง (~30)
- ไม่มีความกว้างของกล่องเลย -> บ่งบอกว่า Spread แทบไม่เปลี่ยน (เอาจริงๆ เขาบอกเป็นบัญชี fix spread นะ แต่จากข้อมูลเรายังคงเห็นค่า spread ที่แคบลงบางเวลา ซึ่งก็แปลกๆ อยู่)
- แต่มี Outlier จำนวนมากและพุ่งแรง
- เหมาะกับ: EA ที่ pause trade ได้ช่วงข่าว เช่น News EA, Grid EA
IC Markets
- Median ต่ำ (~7–8) ต่ำสุดในกราฟ
- กล่องแคบ -> เสถียรยอดเยี่ยม
- มี Outlier เพียงเล็กน้อย
- เหมาะกับ: Scalping EA, Arbitrage, EA ที่ต้องความเร็วสูง
HFM
- Median ปานกลาง (~30)
- กล่องค่อนข้างกว้าง -> Spread ผันผวนในบางช่วง
- มี Outlier ค่อนข้างเยอะ
- เหมาะกับ: EA แนว Long-Term หรือ Trend Following
Exness
-
กล่อง (Interquartile Range) ค่อนข้างแคบ → แสดงว่า Spread ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในช่วงแคบ ๆ ใกล้ค่ากลาง
-
ไม่มี outlier ที่กระโดดสูงอย่างชัดเจน → บ่งชี้ว่า Spread ของ Exness ไม่ค่อยเกิด spike หรือพุ่งสูงโดยไม่มีเหตุผล
-
เหมาะกับ EA ที่ทำงานในช่วงตลาดนิ่ง หรือ EA ที่วัด spread ก่อนเข้าเทรด
สรุปคำแนะนำการเลือกโบรกเกอร์ให้เหมาะกับ EA แต่ละประเภท
การเลือกโบรกเกอร์ให้เหมาะสมกับลักษณะของ EA ที่ใช้งานนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากค่า Spread และความผันผวนของ Spread เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อกำไรโดยตรงของระบบเทรดอัตโนมัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ EA ประเภท Scalping และ High-Frequency Trading ที่ต้องทำงานในช่วงเวลาสั้นและเปิดคำสั่งจำนวนมาก
ข้อมูลในบทความนี้ได้มาจากการเก็บรวบรวมราคาจริง (Close Price และ Spread) ของ XAUUSD รายชั่วโมงจากโบรกเกอร์ต่าง ๆ ในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2025 และทำการวิเคราะห์ทั้งค่ากลาง (Median), ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และการกระจายตัวของ Spread เพื่อนำมาใช้ในการจัดอันดับและจับคู่กับประเภท EA ที่เหมาะสม
จากผลการวิเคราะห์พบว่า โบรกเกอร์แต่ละรายมีลักษณะเฉพาะของ Spread ที่แตกต่างกัน เช่น บางโบรกเกอร์มี Spread ต่ำแต่มีความผันผวนสูง บางรายมี Spread ปานกลางแต่เสถียรมาก จึงจำเป็นต้องใช้ข้อมูลเชิงสถิติเหล่านี้ในการตัดสินใจ ไม่ใช่ดูเพียงแค่ตัวเลข Spread เฉลี่ยเท่านั้น
ประเภท EA | ลักษณะที่ต้องการ | โบรกเกอร์แนะนำ |
---|---|---|
Scalping EA | Spread ต่ำมาก + SD ต่ำ + Execution เสถียร | IC Markets, Tickmill, XM |
Swing EA | Spread ปานกลาง + ความนิ่งพอสมควร | Vantage, Axi, Exness |
News EA | รับ Spread ผันผวนได้ + ไม่มีรีโควต | QRS, HFM |
Long-Term EA | ไม่เน้น Spread ต่ำ ขอแค่คงที่และเสถียร | Exness, Axi |
Martingale EA | Spread เสถียร + ไม่มี Spike รุนแรง | XM, IC Markets |
Grid EA | Spread ไม่แปรปรวน + ค่าเฉลี่ยไม่สูง | XM, Axi |
Arbitrage EA | Latency ต่ำ + ราคาไม่ล่าช้า + Spread ต่ำ | ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม |
Hedging EA | Spread กลาง ๆ + รองรับการเปิดหลายทิศทาง (Full Hedging) | Vantage, Axi, XM |
Trend EA | Spread คงที่ + ไม่เบี่ยงเบนในเทรนด์ยาว | IC Markets, HFM |
Level Trading EA | Spread ไม่แกว่งแรง + ความนิ่งสูง | Axi, XM |
Neural Network EA | ต้องการข้อมูลราคาบริสุทธิ์ + ไม่มี Spike | XM, Axi |
Multicurrency EA | เทรดหลายคู่พร้อมกันได้ + Spread เฉลี่ยไม่สูง | ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม |
การวิเคราะห์นี้ช่วยให้สามารถเลือกโบรกเกอร์ให้ตรงกับคุณสมบัติของ EA ที่เราใช้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรด ลดต้นทุนจากค่า Spread และเพิ่มความมั่นใจในการวางระบบอัตโนมัติในระยะยาวครับ
FAQ
FAQ: ถ้ามีหลายประเภท EA ควรเลือกโบรกเกอร์อย่างไร?
หากพี่ๆ เพื่อนๆ สมาชิกใช้หลายประเภท EA พร้อมกัน เช่น EA ที่มีทั้ง Scalping, Grid และ Long-Term ในพอร์ตเดียวกัน เราควรทำยังไง
- แยกบัญชีเทรดตามประเภท EA เพื่อให้เหมาะกับ Spread และ Execution ที่แต่ละกลยุทธ์ต้องการ
- เลือกโบรกเกอร์ที่สมดุล เช่น Axi หรือ XM หากคุณต้องการความเสถียร และ Spread ไม่กว้างจนเกินไป
- หลีกเลี่ยงโบรกที่มี Spread ผันผวนสูง หากคุณใช้ EA ที่วาง Stop Loss แบบแคบ หรือ Scalping
- ตรวจสอบข้อมูลค่าคอมมิชชั่นและประเภทบัญชี เช่น ECN หรือ Standard เพราะส่งผลโดยตรงต่อ performance ของ EA
FAQ: หากต้องการเทรดในโบรกเกอร์ที่ Spread สูงต้องทำยังไง?
- ตั้งค่าระยะ TP/SL ให้กว้างขึ้น เพื่อลดผลกระทบของ Spread ที่กินพื้นที่กำไร
- ใช้ EA ที่มี logic วัด Spread ก่อนเปิดออเดอร์ เช่น ปรับ entry delay หรือ pause trade
- เลือกทำงานเฉพาะช่วงตลาดนิ่ง เช่น ช่วงเอเชีย ที่ Spread มีโอกาสแคบลง
การเลือกโบรกเกอร์ให้เหมาะกับ EA แต่ละประเภทไม่เพียงแต่ดูตัวเลข Spread เท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงความเสถียร ความเร็วในการส่งคำสั่ง และความเหมาะสมกับกลยุทธ์ของ EA ที่คุณใช้งานร่วมด้วย
"เริ่มต้นอย่างช้าๆ แต่ชัดเจน"
ให้เราได้ดูแลคุณ...
eaforexcenter.com