กระดานเทรดคริปโท หรือ เว็บเทรดคริปโต เป็นเหมือนสะพานที่เชื่อมเราสู่โลกแห่งการเงินดิจิทัล ผู้ซื้อหรือนักลงทุนสามารถเข้าไปเริ่มต้นทำการซื้อขายเหรียญสกุลเงินต่าง ๆ ได้ และตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตัวเลขของจำนวนกระดานเทรดเหล่านี้ได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็จะมีเพียงแค่บางเจ้าเท่านั้นที่สามารถมายืนอยู่แถวหน้าและเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของนักลงทุนทั่วโลกได้
และนี่คือ 5 กระดานเทรดคริปโต ที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก จะมีกระดานไหนที่คุณกำลังใช้งานอยู่หรือไม่ ไปอ่านต่อพร้อมกันได้เลย
Coinbase
Coinbase เป็นแพลตฟอร์มสำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโทเคอเรนซี เริ่มต้นใช้งานครั้งแรกเมื่อปี 2012 ผู้ใช้สามารถซื้อ ขาย และจัดเก็บเหรียญคริปโทเคอเรนซีสกุลต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ Coinbase ยังมีบริการต่างๆ เช่น เครื่องมือสำหรับผู้ที่ต้องการทำร้านค้าซื้อขายเหรียญ กระเป๋าเงินดิจิทัล และ API สำหรับนักพัฒนาในการสร้างแอปพลิเคชัน
หนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญของ Coinbase คือ UI (User Interface) ที่ใช้งานง่าย ซึ่งทำให้ง่ายสำหรับมือใหม่ ผู้ใช้สามารถผูกบัญชีธนาคารทั่วไป หรือบัตรเครดิตเข้ากับบัญชีของ Coinbase และซื้อหรือขายเหรียญได้เลย โดยจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการทำธุรกรรม ซึ่งเรทราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวิธีการชำระเงิน และปริมาณมูลค่าเหรียญที่ทำการซื้อขาย
Coinbase เป็นที่รู้จักในด้านมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง หนึ่งในนั้นมีการเข้ารหัสแบบ 2FA (two-factor authentication) และการจัดเก็บเงินของผู้ใช้งานแบบ Cold Wallet นอกจากนี้ยังอยู่ภายใต้กฎหมายและการควบคุมจากประเทศสหรัฐอเมริกา และปฏิบัติตามกฎระเบียบต่อต้านการฟอกเงินและการรู้จักลูกค้าของคุณอย่างเข้มงวด
และด้วยสาเหตุนั้นเอง ทำให้ Coinbase กลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายเหรียญ Cryptocurrency ที่ได้รับความนิยม และน่าเชื่อถือมากที่สุดในโลก ด้วยผู้ใช้งานมากถึง 108 ล้านบัญชีในปี 2022 ที่ผ่านมา
Binance
Binance เป็นหนึ่งในกระดานเทรดเหรียญคริปโตเคอเรนซีที่คนไทยหลายคนรู้จัก และใช้กันอย่างแพร่หลาย ก่อตั้งโดยผู้มากประสบการณ์ในวงการคริปโตชาวจีนชื่อว่า Changpeng Zhao ออกเสียงว่า ฉางเผิง จ้าว หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ CZ หรือ ซีซี นั่นเอง
Binance มีรูปแบบการซื้อขายที่หลากหลาย เช่น การซื้อขายมาร์จิ้น(margin) การซื้อขายแบบสปอต(sopt) การซื้อขายฟิวเจอร์ส(futures) และการซื้อขายออปชัน(option) นอกจากนี้ยังมีกระเป๋าเงินดิจิทัลและ API สำหรับนักพัฒนาในการสร้างแอปพลิเคชันที่ใช้คริปโทเคอเรนซี
ปัจจัยอย่างหนึ่งที่ทำให้ Binance โดดเด่นคือ ภายในแพลตฟอร์มมีสภาพคล่องสูงมาก ด้วยผู้ใช้งานทั้งหมด 128 ล้านบัญชี และมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในช่วงที่ตลาดคึกคักอยู่ที่ 65,000 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 2.2 แสนล้านบาท ทำให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อขายได้อย่างรวดเร็วและราคาค่อนข้างตรงกับตลาด ณ ตอนที่กดซื้อขาย
นอกจากนี้ยังเก็บค่าธรรมเนียม (fee) การเทรดที่ต่ำมากๆ และถ้าหากผู้ใช้งานมีเหรียญ BNB ที่เป็นเหรียญประจำ blockchain ของ Binance Smart chain อยู่ในบัญชี จะได้ลดค่าธรรมเนียมอีก 25% ในการเทรดแบบ Spot และลด 10% ในการเทรดแบบ Future
นอกจากนี้ยังได้ปล่อยใช้งานตัวแพลตฟอร์ม NFT (Non Fungible Token) และ DEX (Decentralized Exchange) ที่เรียกว่า Binance DEX อีกด้วย
Bybit
Bybit นั้นถึงแม้จะเป็นแพลตฟอร์มที่ถูกสร้างมาไม่นานเมื่อปี 2018 แต่ขึ้นมาเป็นหัวตารางของกระดานเทรดคริปโทได้ ตีสูสีมากับทั้ง Binance และ Coinbase และเมื่อเดือนกันยายน ปี 2022 ที่ผ่านมานี้ ได้ปรับค่าธรรมเนียมการเทรดแบบ Spot เป็น 0 บาท เพื่อเป็นการฉลองให้กับการที่มีผู้ใช้งานแตะ 10 ล้านบัญชี
ปริมาณสภาพคล่องภายในแพลตฟอร์มของ Bybit นั้นเรียกได้ว่าไม่แพ้อันดับท๊อปหลาย ๆ ที่แน่นอน และมีรูปแบบการเทรดที่หลากหลาย แต่ที่ทำให้ Bybit แตกต่างจากที่อื่นก็คือ ฟังก์ชันที่อยู่ในการเทรดแบบฟิวเจอร์ (futures) ที่ช่วยให้นักเทรดได้ใส่ตัวเลข leverage ได้ในระดับทศนิยม ซึ่งปกติแล้วในแพลตฟอร์มทั่วไปจะไม่สามารถใส่ทศนิยมได้ ซึ่งตรงนี้เองทำให้นักเทรดสามารถคำนวณ และทำการเทรดได้แม่นยำมากขึ้น
Bitget
Bitget ถือเป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของผู้ใช้งานจากทั่วโลก โดยเฉพาะทางฝั่งอเมริกา และ ยุโรป เปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อปี 2018 เรียกได้ว่าเปิดตามกันมาติด ๆ กับยักษ์ใหญ่เจ้าอื่นเช่นกัน ฟังก์ชันการทำงาน รูปแบบการเทรดต่าง ๆ
แต่สิ่งที่ทำให้ Bitget ที่น่าสนใจ และโดดเด่นยิ่งไปกว่านั้นคือ Bitget เป็นแพลตฟอร์มแรก ๆ ที่มีการสร้างระบบที่เรียกว่า One Click Copy Trade ที่ช่วยให้นักลงทุนและผู้ใช้งานสามารถเลือกกดติดตามนักเทรดที่มีความสามารถในการทำกำไร และทำการเทรดแบบเดียวกันกับนักเทรดต้นทางแบบอัตโนมัติได้เลย
Bitget โดดเด่นในเรื่องของ Copy Trade มาตั้งแต่เริ่มต้นเปิดใช้งาน โดยปัจจุบันมีนักเทรดผู้เชี่ยวชาญที่สมัครกับแพลตฟอร์มอยู่มากถึง 80,000 คน ยังไม่รวมผู้ติดตามอีกมากกว่าอีกเกือบ 400,000 คน และได้มีการเทรดเกิดขึ้นมากถึง 100 ล้านครั้งนับตั้งแต่เริ่มใช้งาน
OKX
ไล่เลี่ยกันในปี 2017 OKX ได้ถูกเปิดใช้งานขึ้นมา และได้ดันตัวเองเข้าสู่หัวตารางของแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ผู้คนใช้งานมากที่สุดได้อย่างรวดเร็ว และยังคงเป็นกระดานเทรดยักษ์ใหญ่ที่ผู้คนนิยมเลือกในงานอยู่จนถึงทุกวันนี้
จุดเด่นของ OKX เปรียบเหมือนการเอาจุดเด่นของแพลตฟอร์มแต่ละอย่าง มาผสมรวมกัน ไม่ว่าจะเป็น
- การมีคู่เหรียญ และรูปแบบการเทรดที่หลากหลาย พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครอบคลุม
- ระบบความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง
- การบริการลูกค้าหลายช่องทางตลอด 24 ชั่วโมง
- Mining และรูปแบบการสร้างกำไรทางอื่นที่นอกเหนือจากการเทรดซื้อขายแบบปกติ
- การทดลองเทรด หรือ Demo Trading
- Copy Trading
สรุป
ยังมีกระดานเทรดอื่น ๆ นอกเหนือจาก 5 กระดานที่เราไม่ได้ใส่เข้ามา ทุกคนก็สามารถทำการบ้าน ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมได้ว่าจะเลือกใช้งานกับที่ใด และให้คำนึงถึงปัจจัยสำคัญหลาย ๆ อย่างไว้ด้วย เช่น ความปลอดภัย ความง่ายในการใช้งาน ฟังก์ชันการทำงานที่เหมาะกับรูปแบบการเทรดของตัวเอง
อ้างอิง
https://www.finder.com/coinbase-statistics
https://www.binance.com/en/blog/ecosystem/looking-back-at-binances-2022-endofyear-report
https://www.binance.com/en/fee/schedule
https://announcements.bybit.com/en-US/article/celebrate
https://www.finder.com/coinbase-statistics#
https://ycharts.com/companies/COIN/assets
"เริ่มต้นอย่างช้าๆ แต่ชัดเจน"
ให้เราได้ดูแลคุณ...
eaforexcenter.com