รีวิว Pepperstone ดีไหม ความน่าเชื่อถือ ระบบการ Copytrade เป็นยังไง

รีวิว Pepperstone : เกริ่นก่อนครับว่า Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ให้บริการในการเทรดหุ้น ตลาดเงินต่างประเทศ (Forex) และสินค้าฟิวเจอร์ส (Futures) ออนไลน์ โดยเป็นบริษัทที่ใหญ่ระดับโลก เป็นที่รู้จักในวงการฟอเร็กซ์ มาอย่างยาวนาน ดังนั้นเราจึงจะขอเปิดมุมมองทางด้านงานบริการสำหรับเทรดเดอร์โดยตรง ว่ามีดีอะไร ทำไมจึงมีชื่อเสียงนัก ไปเปิดดูทุกด้านทุกมุมด้วยกันเลยครับ

 

“นกน้อยไม่กลัวกิ่งไม้ที่เกาะอยู่หัก เพราะมั่นใจในปีกของมันฉันใด เทรดเดอร์ที่มีระบบเทรดเป็นของตัวเอง ย่อมไม่กลัวการลงทุนในตลาด Forex ฉันนั้น”

 


สารบัญ บทความ

โบรกเกอร์ Pepperstone คือ อะไร ?

Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์และ CFD ของออสเตรเลีย ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 อยู่ภายใต้การควบคุมของ ASIC ประเทศออสเตรเลีย และ FCA ของอังกฤษ เคยได้รับรางวัลหลายรางวัลสำหรับการบริการ รวมถึงรางวัลโบรกเกอร์ Forex ECN ระดับโลกที่ดีที่สุดในปี 2021 Pepperstone มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศออสเตรเลีย และมีสาขาทั่วโลก เช่น ประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และไทย เป็นต้น

ข้อดี – ข้อเสีย ของโบรกเกอร์ Pepperstone

Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ทางการเงินที่มีเป้าหมายจะปรับปรุงโลกของการซื้อขายออนไลน์ โดยมีนโยบายดูแลเครือข่ายระหว่างธนาคารด้วยการใช้ Equinix และเสนอบริการจากนิติบุคคลหลายแห่ง เพื่อให้ได้ระบบการซื้อขายที่สมบูรณ์ Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ที่มีข้อดีและข้อเสียเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปดูกัน

ข้อดี โบรกเกอร์ Pepperstone

  1. ค่าธรรมเนียมต่ำ: Pepperstone มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ต่ำกว่าโบรกเกอร์อื่น ๆ ในตลาด Forex และสินค้าฟิวเจอร์ส ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
  2. การเชื่อมต่อความเร็วสูง: Pepperstone มีการเชื่อมต่อความเร็วสูงที่สุดในตลาด Forex ทำให้การเปิด-ปิดออเดอร์ การส่งคำสั่ง และการใช้งานระบบอื่น ๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  3. มีบริการเทรดแบบ ECN: Pepperstone ให้บริการเทรดแบบ ECN (Electronic Communication Network) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้บริการได้รับราคาที่ถูกมาก ๆ จากตลาด
  4. ไม่มีข้อจำกัดในการเทรด: Pepperstone มีนโยบายไม่จำกัดการเทรดและไม่มีการบังคับให้มีขนาดการเทรดขั้นต่ำ ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถซื้อขายได้ตามต้องการและความสะดวกของตนเอง
  5. สเปรดจากตลาดโดยตรง: เข้าถึงสเปรดโดยตรงจากผู้ให้บริการสภาพคล่อง ให้ความโปร่งใสในต้นทุนการซื้อขาย

ข้อเสีย โบรกเกอร์ Pepperstone   

  1. Spread ไม่คงที่: Pepperstone มีการกระจาย Spread ที่ไม่คงที่ ซึ่งอาจส่งผลให้เทรดเดอร์อาจต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่สูงขึ้น และลดผลกำไรที่เทรดเดอร์สามารถได้รับ
  2. ปัญหาการเข้าเว็บไซต์: บางครั้งจะมีปัญหาในการเชื่อมต่อกับหน้าเว็บไซต์ของ Pepperstone ซึ่งสามารถส่งผลให้เทรดเดอร์ไม่สามารถเข้าถึงและใช้งานบัญชีของพวกเขาได้อย่างถูกต้อง
  3. มีการเปลี่ยนเงื่อนไขการเทรดได้: บางครั้ง Pepperstone อาจทำการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการเทรดโดยไม่แจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้เทรดได้รับความเสียหายจากการเข้าใจผิดได้
  4. ไม่อนุญาตให้ผู้เทรดเลือกเงินฝากในการฝากเงิน: Pepperstone มีนโยบายที่กำหนดให้ผู้เทรดต้องใช้เงินฝากที่เป็นเงินบาทออสเตรเลียเท่านั้น ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้เทรดต้องเสียค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนเงินตราเมื่อฝากหรือถอนเงิน (หากต้องการฝากเงินสกุลอื่นต้องติดต่อโดยตรงกับเจ้าหน้าที่)

***Equinix เป็นบริษัทที่ให้บริการศูนย์กลางข้อมูลและเครือข่ายความเร็วสูง (high-speed network) ให้กับองค์กรต่างๆ เพื่อดูแลเครือข่ายระหว่างธนาคารจะช่วยให้ธนาคารสามารถเชื่อมต่อกับธนาคารอื่น ๆ และกับผู้ใช้บริการได้อย่างรวดเร็วและมีความเสถียรสูงขึ้น

รูปที่ 1 Forex Trader นักเทรดฟอเร็กซ์ มักจะมองหาโบรกเกอร์ที่ดีเสมอ

ความน่าเชื่อถือของ Pepperstone

โบรกเกอร์ Pepperstone เป็นบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือและมีชื่อเสียงในกลุ่มผู้ใช้บริการในตลาด Forex และได้รับรางวัลจากสถาบันต่าง ๆ ในวงการการเงินมากมาย ขอยกเอารางวัลมาให้ชมพอเป็นตัวอย่าง ดังนี้

  • รางวัลโบรกเกอร์ Forex ยอดเยี่ยมของปี 2018 จาก UK Forex Awards
  • รางวัลโบรกเกอร์ Forex ยอดเยี่ยมของปี 2019 จาก The Bull Stockies Awards
  • รางวัลโบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุดของปี 2019 จาก World Finance Forex Awards
  • รางวัลโบรกเกอร์ Forex ที่เติบโตอย่างรวดเร็วของปี 2020 จาก Australia Financial Review Fast 100
  • รางวัลโบรกเกอร์ Forex ที่ดีที่สุดของปี 2020 จาก UK Forex Awards

จากตัวอย่างของรางวัลที่เคยได้รับ พอจะยืนยันได้ว่า Pepperstone มีดีพอตัวไม่ใช่น้อยเลย เรามามองดูที่มาที่ไปในด้านอื่น ๆ กันบ้างดีกว่า ว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง

ปีที่ก่อตั้ง / อายุของการให้บริการด้าน Forex

โบรกเกอร์ Pepperstone เป็นบริษัทโบรกเกอร์ออนไลน์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 ดังนั้น ตั้งแต่เปิดตัวให้บริการมาจนถึงปัจจุบัน ได้มีอายุการให้บริการด้าน Forex นานมาแล้วกว่า 13 ปี

License / คะแนน Trust pilot

Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ Forex ที่ได้รับการออกใบอนุญาตจากหลายองค์กรกำกับดูแลการเงินระดับสูง ที่มีมาตราฐานระดับสากล ซึ่งเป็นองค์กรกำกับดูแลการเงินที่มีชื่อเสียงและเครื่องหมายรับรองความปลอดภัยในการให้บริการทางการเงิน  ดังนี้

  • Australian Securities and Investments Commission (ASIC)
  • Financial Conduct Authority (FCA)

ส่วนคะแนน Trustpilot ของ Pepperstone จากยอดการรีวิวของนักเทรด อยู่ที่ 4.6/5 จาก 14,045 รีวิวที่ตรวจสอบแล้ว โดยมีคะแนนที่สูงขึ้นมาจากการให้บริการด้านความเสถียรและประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มการซื้อขายและบริการลูกค้าที่มีคุณภาพสูงเป็นส่วนใหญ่

Scam และข่าวด้านการโกง/การตุกติกของ Pepperstone

เพื่อป้องกันการเป็นเหยื่อของการโกงหรือการตุกติกในการซื้อขาย Forex หรืออื่น ๆ เราจึงจำเป็นต้องหาข้อมูลด้านนี้ในสื่ออนไลน์มาประกอบการพิจารณาด้วย

จากการหาข้อมูลที่เราสามารถตรวจสอบได้ ไม่มีข้อมูลหรือข่าวลือ (Scam) ที่ระบุว่า Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ที่เกี่ยวข้องกับการโกงหรือการตุกติกในการซื้อขาย Forex นั่นก็คงเป็นเพราะว่า Pepperstone ได้ถูกตรวจสอบจากหลายองค์กรกำกับดูแลการเงินระดับสูงทั่วโลก จึงทำเรื่องเสียหายอย่างการโกงได้ยาก

ประเภทบัญชี Pepperstone

โบรกเกอร์ Pepperstone มีบัญชีการซื้อขายหลากหลายประเภทที่สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการของลูกค้า โดยสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ดังนี้

  • Standard Account: เป็นบัญชีพื้นฐานที่เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์น้อยในการซื้อขาย Forex มีค่า Spread ต่ำเพียง 1 pip ต่อคู่สกุลเงิน ไม่มีค่าคอมมิชชั่น สามารถเทรดได้มากกว่า 150 คู่สกุลเงิน
  • Razor Account: เป็นบัญชีที่นิยมในหมู่นักเทรดมืออาชีพ เพราะมีค่า Spread เริ่มต้นที่ต่ำเพียง 0.0 pip ต่อคู่สกุลเงิน ค่าคอมมิชชั่นเทรดก็ถูกมาก
  • Swap-free Account: เป็นบัญชีที่ไม่มีค่า Swap โดยมีค่า Spread เท่ากับบัญชี Standard Account
  • Active Trader Program: เป็นบัญชีที่เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีปริมาณการเทรดสูง และต้องการมีสิทธิประโยชน์และบริการพิเศษจากโบรกเกอร์ Pepperstone แต่ต้องมีเงินฝากขั้นต่ำอยู่ที่ 25,000 AUD
รูปที่ 2 ไส้เทียน มีผลต่อออเดอร์ที่ตั้ง SL หรือ TP เสมอ

ภาพรวมการเทรด ความลื่นไหล กราฟค้าง? ลากไส้เทียน?

หลังจากที่เราได้เปิดมุมมองของโบรกเกอร์ Pepperstone ในแง่ของความน่าเชื่อถือและความมีชื่อเสียงในกลุ่มผู้ใช้บริการในตลาด Forex แล้ว ทีนี้มาติดตามดูงานบริการทางด้านการเทรดบ้าง มาดูภาพรวมของการเทรด ความลื่นไหล อาการแสดงกราฟราคาของแพลตฟอร์ม มาดูกันว่ามีความเป็นไปอย่างไรบ้าง ไปดูกัน

ความลื่นไหลในการเทรด

ตามที่ทางเว็บไซต์ได้รายงาน Pepperstone มีการปรับปรุงระบบเทรดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มการเทรดได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เทคโนโลยีเสริมอย่าง VPS Hosting และ Smart Trader Tools เพื่อช่วยให้ลูกค้าเทรดได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว จากการใช้งานในการเทรด Forex นับว่ามีประสิทธิภาพดี มีความลื่นไหลในการเทรดดี ปัญหาเรื่องอาการสะดุดยังไม่เคยเจอ เรื่องนี้ถือว่าผ่าน

รูปที่ 3 ระบบ VPS Hosting และ Smart Trader Tools ที่ช่วยให้การเทรดไหลลื่น

Requotes (รีโควต) บ่อยไหม

หากจะบอกว่าโบรกเกอร์ Pepperstone ไม่มีปัญหา requote เกิดขึ้นเลย ก็คงพูดไม่ได้ เพราะตามที่ได้เทรดมาระยะหนึ่ง เคยเจอกับตัวเองมาบ้างเหมือนกัน บอกได้แต่เพียงว่ายังเกิดขึ้นน้อยครั้งมาก แต่อย่างไรก็ตาม การมี requote นั้นอาจเกิดขึ้นได้ในสถานการณ์ที่ตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หรือบางทีอาจเกิดจากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของตัวเราเองก็ได้ เรื่องอาการรีโควตนี้จึงไม่เสียหายอะไร ยอมรับได้

กราฟค้างบ่อยไหม

อาจเป็นเพราะ Pepperstone มีระบบเทคโนโลยีเสริมอย่าง VPS Hosting และ Smart Trader Tools ใช้งาน อาการกราฟค้างในขณะที่เทรดจึงยังไม่เคยเจอ ในจังหวะที่ต้องปรับเปลี่ยน Time Frame เองก็ไม่มีปัญหาสะดุดอะไรกวนใจ มีความราบรื่นดีใช้ได้

Slippage หรือ การลากไส้เทียนมากิน Stop Loss บ่อยไหม

การลากไส้เทียน หรือ slippage ในการเทรด จนวิ่งไปกิน stop loss ที่ตั้งเอาไว้ มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นบ่อยไหม ตอบคำถามนี้ค่อนข้างยาก เพราะระดับราคาที่ตั้ง SL นั้น มันก็ทำไปตามระบบเทรดที่มีอยู่ การที่ราคาวิ่งไปชนจุดตัดขาดทุนจึงเกิดขึ้นได้ แต่ที่เกิดแบบมีไส้เทียนยาว ๆ จนผิดสังเกตุ อันนี้ยังไม่เคยเจอ

 

ระดับ Stop out แต่ละบัญชี

ระดับ Stop Out ของ Pepperstone แต่ละบัญชีจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของบัญชี ดังนี้

  • Standard account: ระดับ Stop Out คือ 50%
  • Razor account: ระดับ Stop Out คือ 50%
  • Swap-Free account: ระดับ Stop Out คือ 20%
  • Active Trader Program: ระดับ Stop Out คือ 50%

เมื่อราคาของออเดอร์ที่ถืออยู่วิ่งมาถึงระดับ Stop Out แล้ว ระบบจะทำการปิดการเทรดโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันการเกิดหนี้สินที่เกินเงินฝากในบัญชีของลูกค้า การตั้งระดับ Stop Out ในแต่ละบัญชีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ลูกค้าควรตรวจสอบก่อนทำการเทรด

รูปที่ 4 ค่าสเปรดเฉลี่ยและค่าคอมมิชชั่น ของโบรกเกอร์ Pepperstone

 

ค่าบริการรวม: Spread commission swap

ค่าบริการรวมของ Pepperstone จะประกอบไปด้วยการคิดค่าบริการทั้ง Spread, Commission และ Swap ที่แตกต่างกัน ดังนี้  

  • Spread: การคิดค่า Spread ของ Pepperstone จะขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่เทรด และประเภทของบัญชีที่ลูกค้าใช้งาน โดยโดยเฉลี่ยค่า Spread ของ Pepperstone จะอยู่ที่ประมาณ 0.1-1.0 pip สำหรับสินทรัพย์ที่มีความนิยม เช่น EUR/USD หรือ USD/JPY โดยมีค่า Spread ต่ำสุดที่ 0 pip ในบัญชี Razor
  • Commission: คือค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นจากการ ซื้อ-ขาย ซึ่งจะเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าธุรกรรม โดย Pepperstone มีการเก็บค่าคอมมิชชั่นบนบัญชี Razor เท่านั้น โดยมีอัตราค่าคอมมิชชั่นเริ่มต้นที่ 7 ดอลลาร์สหรัฐต่อหนึ่งรายการ (per lot)
  • Swap: คือค่าดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นเมื่อถืออเดอร์ค้างคืน ซึ่งอาจจะเป็นค่าดอกเบี้ยบวกหรือลบขึ้นอยู่กับประเภทของสินทรัพย์ และดอกเบี้ยในแต่ละวันจะถูกเพิ่มเข้าสู่บัญชีของลูกค้าโดยอัตโนมัติ

โดยสรุปแล้ว ค่าบริการรวมของ Pepperstone จะขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่เทรด ประเภทของบัญชี และขนาดการซื้อขาย (Lot size) ของลูกค้า โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบค่าบริการในแต่ละวันได้ในหน้าการซื้อขาย (Trade tab) ในแต่ละสินทรัพย์ที่เทรด

รูปที่ 5 ค่าคอมมิชชั่นของแต่ละคู่เงิน ที่เป็นสกุลเงินหลักในกระดานเทรด

 

บัญชีที่แนะนำของ Pepperstone

สำหรับประเภทบัญชีที่อยากแนะนำของโบรกเกอร์ Pepperstone คือบัญชีที่ช่วยให้ลูกค้าเทรดประหยัดที่สุดนั่นก็คือบัญชี Razor ซึ่งเป็นบัญชีที่มีค่า Spread ต่ำสุด เพราะมีค่า Spread เริ่มต้นที่ต่ำเพียง 0.0 pip ต่อคู่สกุลเงิน และมีการเรียกเก็บค่า Commission จากการเทรดด้วย โดยรวมยังถือว่าประหยัดมาก

ตัวอย่างเช่น สำหรับสกุล EUR/USD อัตราค่า Commission ที่ Pepperstone เรียกเก็บ จะเท่ากับ 7 USD ต่อล็อต (round turn lot) หรือ 3.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อรอบ ซื้อ-ขาย (per side) โดยการเรียกเก็บค่า Commission จะถูกหักโดยอัตโนมัติพร้อมกับค่า Spread ที่แสดงในการซื้อขายด้วย

 

โปรโมชั่นของ Pepperstone

โบรกเกอร์ Pepperstone ก็มีโปรโมชั่นต่าง ๆ สำหรับลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่า ซึ่งจะมีการจัดแจกตามเวลาและสถานการณ์ในตลาด โปรโมชั่นที่ Pepperstone มักจะมอบให้ลูกค้านั้น ได้แก่

  • โบนัสฝากเงิน โปรโมชั่นสำหรับลูกค้าใหม่ที่ฝากเงินเข้าบัญชี สามารถรับโบนัสฝากเงินได้ โดยมีอัตราการมอบเป็นเครดิตตามเงินฝาก
  • โปรโมชั่นคืนเงินเทรด โปรโมชั่นสำหรับลูกค้าเก่าที่มีปริมาณการเทรดมาก โดยลูกค้าจะได้รับ Cashback ตามปริมาณการเทรดที่ทำ
  • โปรโมชั่น Rebate โปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่มีปริมาณการเทรดมาก โดยลูกค้าจะได้รับคืนเงินจากค่า Commission ที่เสียในการเทรด
  • โปรโมชั่น Spread ต่ำ โปรโมชั่นสำหรับบัญชี Razor ที่มีการเรียกเก็บค่า Commission จากการเทรดแทนการเก็บ Spread อย่างเดียว โดยมี Spread ต่ำสุดที่ 0 pip สำหรับสินทรัพย์ที่มีความนิยม

สมาชิกที่เปิดบัญชีเทรดอยู่แล้วหรือกำลังสนใจจะเปิด สามารถตรวจดูโปรโมชั่นของ Pepperstone ตามข่าวสารที่แจ้งในเว็บหรือโฆษณา เพื่อรับทราบโปรโมชั่นล่าสุดได้เลย

รูปที่ 6 แพลตฟอร์ม Tradingview ใช้เทรดกับ Pepperstone ได้

 

Platform ที่ใช้งาน

Pepperstone มี platform ที่ให้ลูกค้าเลือกใช้งานหลายแบบ ได้แก่

  • MetaTrader 4 (MT4)
  • MetaTrader 5 (MT5)
  • cTrader
  • Tradingview

ทั้งสามแพลตฟอร์มเหล่านี้มีความนิยมสูงในวงการซื้อขาย Forex และ CFDs เชื่อว่าคงรู้จักคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วกับนักเทรดทุกระดับ ทั้งหมดนั้นก็เพื่อให้ลูกค้าของ Pepperstone สามารถเลือกแพลตฟอร์มที่ตรงกับความต้องการได้ตามความชอบนั่นเอง

 

การฝาก-ถอน

ต่อไป เรามาดูเรื่องการจัดการทางการเงินกันบ้าง Pepperstone มีวิธีการฝากเงินและถอนเงินที่สะดวกและง่ายต่อลูกค้าหลายช่องทาง ใครสะดวกช่องทางไหนก็เลือกจัดการได้ตามนั้นเลย โดยมีวิธีดังนี้

  • โอนผ่านธนาคาร – ลูกค้าสามารถโอนเงินผ่านธนาคารได้โดยตรงผ่านช่องทางออนไลน์หรือผ่านการโอนเงินทางธนาคารโดยตรง
  • บัตรเครดิต/เดบิต – ลูกค้าสามารถฝากเงินผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิตได้โดยทันทีผ่านหน้าเว็บไซต์ Pepperstone ด้วยการใช้บริการโดยตรง
  • PayPal – ลูกค้าสามารถฝากเงินผ่าน PayPal ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
  • Neteller/Skrill – ลูกค้าสามารถฝากเงินผ่าน Neteller หรือ Skrill ได้อย่างรวดเร็วและสะดวก

ความเร็วในการฝาก-ถอน

โบรกเกอร์ Pepperstone มีระบบการฝาก-ถอนเงินที่รวดเร็วและมีความปลอดภัยสูง โดยปกติแล้วการฝากเงินจะประมวลผ่านทันที ส่วนการถอนเงินจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือหนึ่งวันทำการในการดำเนินการ แต่บางครั้งอาจใช้เวลาน้อยกว่านั้น

สำหรับการถอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร การขอถอนเงินจะต้องทำก่อนเวลา 12:00 น. (เวลาในแต่ละประเทศ) เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ในวันเดียวกัน และจะไม่มีค่าธรรมเนียมในการถอนเงินจาก Pepperstone แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับวิธีการที่ผู้ใช้งานเลือกใช้งาน

ค่าบริการ / Rate ฝาก-ถอน

สำหรับการคิดค่าบริการในการฝากและถอนเงิน ค่าธรรมเนียมอาจแตกต่างกันไปตามวิธีการฝากและถอนเงินที่ผู้ใช้งานเลือกใช้ ดังนี้ 

ฝาก – ถอน ผ่านบัตรเครดิต/เดบิต: ไม่มีค่าธรรมเนียม

ฝาก – ถอน ผ่าน Skrill/Neteller: ไม่มีค่าธรรมเนียม  

ฝาก – ถอน ผ่านธนาคาร: บางธนาคารอาจเรียกค่าธรรมเนียม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ผู้ใช้งานควรติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ Pepperstone

วิธีการ ฝาก – ถอน Pepperstone

วิธีการดำเนินการทางการเงินกับโบรกเกอร์ Pepperstone นั้น มีวิธีการที่สะดวกและง่ายต่อการ ฝาก-ถอนเงิน ดังนี้

  1. เข้าสู่ระบบ Pepperstone ด้วยรายละเอียดบัญชีของคุณ
  2. เลือก “ฝากเงิน” หรือ “ถอนเงิน” จากเมนูด้านบนของหน้าจอ
  3. เลือกวิธีการฝากเงินที่คุณต้องการ (บัตรเครดิต/เดบิต, โอนเงินผ่านธนาคาร, อื่น ๆ)
  4. กรอกข้อมูลการฝากเงินและยืนยัน

หากใครมีข้อสงสัยหรือปัญหาในการ ฝาก-ถอนเงิน คุณก็สามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ Pepperstone ผ่านทางอีเมล์หรือแชทสดบนเว็บไซต์ของพวกเขาได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ทุก 5 วันทำการที่ตลาดเปิด

รูปที่ 7 ทางเลือกสำหรับการสร้างผลตอบแทนด้วยระบบ VPS ฟรี ของ Pepperstone

 

สิ่งที่น่าสนใจ จุดเด่น อื่น ๆ ของ Pepperstone

สิ่งที่น่าสนใจ ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นจุดเด่นของโบรกเกอร์ Pepperstone ก็คือบริการ VPS ฟรีสำหรับลูกค้าที่มีเงินฝากเท่ากับหรือมากกว่า 1,500 USD โดยมีระยะเวลาให้บริการ 30 วัน โดยจะมีเงื่อนไขและข้อกำหนดในการใช้งาน ดังนี้ 

  1. ลูกค้าต้องเปิดบัญชี VPS ผ่านพอร์ทัลลูกค้าของ Pepperstone
  2. ลูกค้าต้องฝากเงินเข้าบัญชีเทรดของ Pepperstone อย่างน้อย 1,500 USD
  3. ลูกค้าต้องสมัครบริการ VPS ฟรีผ่านพอร์ทัลลูกค้าของ Pepperstone
  4. บริการ VPS ฟรีจะมีระยะเวลาให้บริการ 30 วันต่อครั้ง
  5. บริการ VPS ฟรีจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  6. ลูกค้าจะได้รับ VPS ที่มีระบบปฏิบัติการ Windows Server 2012 R2 หรือ Windows Server 2016
  7. VPS ฟรีจะมีพื้นที่ดิสก์อย่างน้อย 30 GB และหน่วยประมวลผลขั้นต่ำ 1 GB RAM
  8. ลูกค้าสามารถติดตั้งโปรแกรมเทรดหรือโปรแกรมอื่น ๆ บน VPS ได้ตามต้องการ

จะเห็นได้ว่าการใช้บริการ VPS ฟรี จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเทรดบนแพลตฟอร์มได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และสามารถเทรดได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง แม้ว่าคอมพิวเตอร์ของลูกค้าจะปิดอยู่ก็ตาม

รูปที่ 8 ทดสอบระบบเทรดด้วยการ Backtest เพื่อดูผลงานย้อนหลัง

 

ช่องทางการติดต่อ / Support    

มีช่องทางการติดต่อเพื่อขอ Support จากโบรกเกอร์ Pepperstone ได้หลายช่องทาง เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามปัญหาได้อย่างสะดวกสบาย ดังนี้

  • Live Chat: ลูกค้าสามารถติดต่อสนับสนุนทาง Live Chat ผ่านเว็บไซต์ของ Pepperstone ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  • อีเมล: ลูกค้าสามารถส่งอีเมลถึงทีมสนับสนุนของ Pepperstone ได้ที่ support@pepperstone.com
  • ฟอรั่ม: ลูกค้าสามารถเข้าร่วมการสนทนาและแบ่งปันความรู้ในฟอรั่มของ Pepperstone ได้ที่ https://community.pepperstone.com/
  • สื่อสังคมออนไลน์: ลูกค้าสามารถติดตามข่าวสารและอัพเดตล่าสุดของ Pepperstone ได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น Facebook, Twitter, LinkedIn และ YouTube

 

Copy Trade ของ pepperstone เป็นอย่างไร?

หากขาดส่วน Copy Trade ไปเห็นที รีวิว Pepperstone ของเราจะไม่สมบูรณ์ เพราะ Copytrade เป็นวิธีที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นในการการซื้อขาย โดยไม่ต้องเรียนรู้กลยุทธ์และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงทั้งหมดด้วยตนเอง โดยนักลงทุนสามารถเลือกเทรดเดอร์ที่พวกเขาต้องการคัดลอกได้เอง

เมื่อเทรดเดอร์ทำการซื้อขาย การลงทุนของนักลงทุนจะถูกคัดลอกโดยอัตโนมัติไปยังตำแหน่งเดียวกัน ตามจำนวนเงินทุนที่กำหนดเอง สิ่งนี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างผลกำไรได้เช่นเดียวกับเทรดเดอร์ที่พวกเขากำลังคัดลอก // ต่อไปนี้คือข้อดีของ Copy Trade กับโบรกเกอร์ pepperstone ที่เราได้รวบรวมมาแสดงเอาไว้

1.ง่ายต่อการเรียนรู้และเริ่มต้น

2.กระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน

3.สามารถติดตามเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้

4.สามารถสร้างผลกำไรได้โดยไม่ต้องเรียนรู้กลยุทธ์การซื้อขายและการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง

 

บทสรุป รีวิว Pepperstone

โบรกเกอร์ Pepperstone มีชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือสูงในวงการ Forex ด้วยประสบการณ์ที่มีมากกว่า 10 ปีในการให้บริการ โดยมีจุดเด่นด้านความปลอดภัย เพราะมีการรักษาความปลอดภัยของลูกค้าอย่างเข้มงวด ด้วยการใช้งานเทคโนโลยี SSL เพื่อป้องกันการแฮกเข้าสู่ระบบ

นอกจากมีงานบริการในด้านต่าง ๆ ที่ครบถ้วนอยู่แล้ว จุดเด่นของ Pepperstone คือการให้บริการฟรี VPS สำหรับลูกค้าที่มีเงินฝากมากกว่า 1,500 USD และมีคุณสมบัติอื่น ๆ ที่ทำให้การเทรด Forex ของลูกค้าง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น สเปรดต่ำ แพลตฟอร์มการเทรดที่ใช้งานง่าย ระบบฝาก-ถอนที่รวดเร็ว  

อย่างไรก็ตาม ก็จงอย่าลืมว่าการเทรด Forex เป็นการลงทุนที่เสี่ยงต่อการสูญเสียเงินทุน ดังนั้นลูกค้าควรทำความเข้าใจและศึกษาเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเทรด Forex ก่อนการเข้ามาใช้บริการของ Pepperstone หรือโบรกเกอร์อื่น ๆ เพราะถ้ารู้จริง ก็สามารถทำกำไรได้จริงเช่นเดียวกัน เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความ รีวิว Pepperstone นี้จะมีประโยชน์ต่อเทรดเดอร์ไม่มากก็น้อยครับ

 

ทีมงาน eaforexcenter.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *