รีวิวกองทุน The Funded Trader (TFT) ในปี 2024 ที่บินไปแล้ว

ณ  ปัจจุบัน TFT บินไปแล้วจ้า !!

“สอบกองทุน” คำนี้ในแวดวงของการเทรดฟอเร็กซ์ เทรดเดอร์หลายคนคงจะพอได้คุ้นหูกันมาบ้าง แน่นอนเลยว่าผู้ที่ต้องการสร้างความมั่นคง พิสูจน์ตนเอง อ่านจะได้ลองศึกษาเกี่ยวกับการสอบกองทุนกันมาบ้างแล้ว สำหรับในบทความนี้พวกเรา Eaforexcenter.com ได้รวบรวมข้อมูลของ กองทุน TFT หรือ The Funded Trader อัพเดทใหม่ปี 2024 มาอย่างครบถ้วน โดยเงื่อนไขต่าง ๆ จะมีรายละเอียดที่น่าสนใจ และ มีการเปลี่ยนแปลงดังต่อไปนี้

---

กองทุน The Funded Trader (TFT)  คืออะไร ?

สำหรับกองทุน The Funded Trader หรือ TFT นั้น จะจัดอยู่ในหมวดกองทุนประเภทหนึ่งที่มีการซื้อขายเกี่ยวกับสกุลเงิน หรือ ที่เรียกกันว่า Forex นั่นเอง โดยเงื่อนไขในการเข้าร่วมนั้น เทรดเดอร์ จะต้องทำการสมัครสอบเพื่อชิงเงินทุนจำนวนหนึ่งใช้เป็นต้นทุนในการเทรด เพื่อได้ซึ่งกำไรมานั่นเอง กำเนิดขึ้นเมื่อปี 2021 แต่กลายเป็นกองทุนที่มีชื่อเสียง พร้อมทั้งมีพาร์ทเนอร์เจ้าสำคัญอย่าง Eightcap, Purple Trading SC และ ในปี 2024 ได้มีพาร์ทเนอร์ร่วมอย่าง Think Markets ทำให้เพิ่มมาตรฐานและความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีกขั้น

ดังนั้นกองทุนจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีความรู้ ความสามารถในการเทรด Forex พร้อมทั้งเข้าใจระบบของตลาดเป็นอย่างดี เพราะการสมัครสอบในแต่ละครั้งจะต้องเสียเงินของตัวเอง มีการสอบหลายขั้นตอนเพื่อให้มาซึ่งเงินทุนจำนวนหนึ่งตามที่กำหนดเอาไว้ในเงื่อนไข ซึ่งมีตั้งแต่ขนาด  $5,000 – $400,000 เลยทีเดียว

ข้อดี – ข้อเสีย The Funded Trader (TFT)

หลังจากที่ได้หาข้อมูลของกองทุนนี้ พบว่ามีการอัพเดทในปี 2024 นี้อยู่หลายประการ ไม่ว่าจะเป็น จำนวนประเภทบัญชีที่เปิดให้สมัครสอบ จำนวนเงินทุน รวมไปถึงเงื่อนไขต่าง ๆ อีกมากมาย ซึ่งสามารถสรุปเป็นข้อดี และ ข้อเสียได้ดังต่อไปนี้

ข้อดีของกองทุน

• มี 5 ประเภทของบัญชี มีขนาดพอร์ตที่แตกต่างกัน รวมทั้งเงื่อนไขที่ให้เทรดเดอร์เลือกสอบ
• สามารถทำการสอบซ้ำได้ ในกรณีที่สอบไม่ผ่าน ขอสอบซ้ำได้
• แพลตฟอร์มที่ให้บริการใช้งานได้ทั้ง MetaTrader 4 และ Meta Trader 5
• ไม่มีข้อจำกัดในการใช้กลยุทธ์ที่ใช้งาน
• มีพาร์ทเนอร์ 3 โบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้ Eightcap Purple Trading SC และ Think Markets
• Dashboard ทันสมัย ใช้งานง่าย
• เริ่มต้นสอบกองทุนด้วยทุนการสอบเพียบ $74
• ไม่จำกัดวันและเวลาในการสอบกองทุน

ข้อเสียของกองทุน

• เว็บไซต์ไม่มีภาษาไทยให้บริการ จะมีเจ้าหน้าที่หลักซัพพอร์ตเป็นภาษาอังกฤษ

ความน่าเชื่อถือของ The Funded Trader (TFT)

ก่อตั้งไม่นานมากสำหรับกองทุน TFT โดยเริ่มต้นยังไม่ถึง 5 ปี ด้วยซ้ำ แต่ด้วยการดูแลอย่างดีของระบบหลังบ้าน รวมไปถึงการรีวิวจากเทรดเดอร์จริง ทำให้การเติบโตของพวกเขานั้นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

ปีที่ก่อตั้ง / อายุของการให้บริการด้าน Forex

• ก่อตั้งขึ้นเมื่อกลางปี ค.ศ.2021
• อายุของการให้บริการประมาณ 3 ปี

คะแนน Trust pilot

• คะแนน Trust pilot อยู่ที่ 4 ดาว จากความคิดเห็น 16,555
• พบความคิดเห็นชื่นชมกระบวนการ KYC ว่าไม่พบปัญหา รวมทั้ง ใช้โบรกเกอร์ Think Markets มีค่าสเปรดที่ดี ยุติธรรม ไม่มี Slippage ความคิดเห็นต่าง ๆ ยังบอกอีกว่าจะสอบ และ ท้าทายในบัญชีอื่น ๆ ต่อไป
• พบความคิดเห็น 1 ดาวแต่เป็นเรื่องที่ไม่มีหลักฐานว่าโบรกเกอร์โกงมาซัพพอร์ต คาดว่าจะเป็นการเทรดช่วงข่าว

Scam หรือข่าวด้านการโกงของกองทุน

ไม่พบข่าวเสียหายของกองทุน TFT พบแต่ความคิดเห็นจาก Trust Pilot ในด้านลบ เป็นความคิดเห็นของบุคคลหนึ่งที่พูดถึงการสอบกองทุนนี้ว่า ทำทุกอย่างให้ล้มเหลว ทำทุกอย่างให้ไม่ผ่านเงื่อนไข เตือนให้อย่าไปสมัครกองทุน แต่ตรวจสอบทางด้านเหตุผลแล้วคาดว่าเกิดจากตลาดช่วงข่าวที่มีความผันผวน ยังไม่พบข่าวด้านการโกงอื่น ๆ เพิ่มเติม

ประเภทบัญชีของกองทุน The Funded Trader (TFT)

ประเภทของกองทุนจะมีด้วยกันหลายประเภท ซึ่งจะมีให้เลือกเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่อยากจะสอบ เริ่มตั้งแต่ บัญชีแบบมาตรฐานทั่วไป รวมทั้ง บัญชีที่มีเงื่อนไขพิเศษ รวมไปถึงจำนวนของขนาดบัญชีที่เริ่มต้นตั้งแต่ 5,000 $ สูงสุด 400,000 $ โดยได้แบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 ประเภทบัญชีดังนี้

บัญชี Standard Challenge      

• มีประเภทของบัญชีให้เลือกระหว่าง แบบ Swing และ Regular
• ขนาดพอร์ตเริ่มต้น $ 50,000 สูงสุด $ 400,000
• ค่าสมัครสอบเริ่มต้น $79 สูงสุด $2,555
• ไม่จำกัดวันซื้อขาย
• สามารถใช้ EA เทรดได้ รวมทั้ง Copy Trade

บัญชี Rapid Challenge

• มีประเภทของบัญชีให้เลือกระหว่าง แบบ Swing และ Regular
• ขนาดพอร์ตเริ่มต้น $ 50,000 สูงสุด $ 400,000
• ค่าสมัครสอบเริ่มต้น $79 สูงสุด $899
• 14 วันจ่ายเงินครั้งแรก ผ่านเงื่อนไข
• เบิกถอนเงินได้ตามสมดุลของพอร์ต

บัญชี Royal Challenge

• มีประเภทบัญชีให้เลือกเพียงแค่ Regular เท่านั้น
• ขนาดพอร์ตเริ่มต้น $ 50,000 สูงสุด $ 300,000
• ค่าสมัครสอบเริ่มต้นที่ $289 แต่ถ้าเลือก ADD-ON Bi-Weekly Withdrawals จะเปลี่ยนเป็น $345
• ไม่จำกัดการใช้ EA
• ขาดทุนได้สูงสุด 10% ต่อพอร์ต
• อนุญาตให้ซื้อขายช่วงข่าวได้

บัญชี Knight Challenge

• มีประเภทบัญชีให้เลือกแค่ Regular เท่านั้น
• ขนาดพอร์ตเริ่มต้น $ 5,000 สูงสุด $ 200,000
• ค่าสมัครสอบเริ่มต้นที่ $59 แต่ถ้าเลือก ADD-ON Bi-Weekly Withdrawals จะเปลี่ยนเป็น $69
• ค่าสมัครสอบสูงสุดที่ $1,129 โดยเลือก ADD-ON Additional Drawdown แต่ถ้าไม่เลือกออปชั่นนี้จะอยู่ที่ $939
• สอบเพียงแค่ครั้งเดียวก็ได้บัญชีจริงมาลงทุน จ่ายเงินครั้งแรก 7 วัน
• ไม่จำกัดการใช้ EA

บัญชี Dragon Challenge

• มีประเภทบัญชีให้เลือก แบบ Swing กับ Regular
• ขนาดพอร์ตเริ่มต้น $ 5,000 สูงสุด $ 200,000
• ค่าสมัครสอบเริ่มต้นที่ $49 โดยไม่มี ADD-ON อื่น ๆ ให้เลือก ค่าสมัครสูงสุด $495 เป็นพอร์ตขนาดใหญ่
• เบิกจ่ายครั้งแรกได้ใน 7 วัน
• มีความท้าทาย Dragon Egg ปรับขนาดกำไรที่ได้รับ 95%

กติกา และเงื่อนไขที่ต้องทำให้ได้

เงื่อนไขการสอบ ที่มีการสอบ 2 รอบ 3 รอบ ถ้าได้บัญชีเทรดหรือผ่านแล้ว ขอให้รักษาเงื่อนไขเอาไว้

• บัญชี Standard/Rapid/Royal มีการสอบได้ 2 รอบ
• บัญชี Knight Challenge สอบได้รอบเดียว
• บัญชี Dragon Challenge สอบได้ 3 รอบ
• ไม่จำกัดเวลาในการเทรด (แต่จะมีการระบุของแต่ละบัญชีว่าต้องซื้อขายขั้นต่ำกี่วัน)
• ต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายกำไร โดยใช้ค่าเลเวอเรจตามประเภทบัญชีที่เลือกตามเงื่อนไข

รายละเอียด การสมัครสอบ The Funded Trader (TFT)

การสมัครสอบในแต่ละประเภทของกองทุน รวมทั้งแต่ละขนาดของจำนวนเงินพอร์ต มีความแตกต่างกันตามเงื่อนไข โดยจะแบ่งรอบของการสอบออกเป็นหลายรอบ โดยจะมีบัญชี Knight Challenge ที่ถ้าสอบรอบแรกผ่าน รอยืนยันหลักฐานแล้วได้บัญชีเทรดจริงได้เลย โดยพวกเราได้สรุปเงื่อนไขของแต่ละขนาดบัญชี ที่เริ่มตั้งแต่ $5,000 ไปจนถึง $400,000 มาให้เข้าใจง่ายแล้วดังนี้

ขนาดบัญชี 5,000 USD

บัญชี Standard Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 10% หรือ $500 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 250
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 10% หรือ $500
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $250
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:60 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:200 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ต้องซื้อขายขั้นต่ำ 3 วัน แต่ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Rapid Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 8% หรือ $400 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 250
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 8% หรือ $400
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $250
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:30 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:100 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ไม่กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Knight Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 10% หรือ $500
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 6% หรือ $300
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 3% หรือ $150
• เลเวอเรจกำหนดที่ 1:30 ไม่มีให้เลือก
• ไม่กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Dragon Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 8% หรือ $400 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 250 / รอบสาม กำไร 5% หรือ $ 250
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 10% หรือ $500
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $250
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:30 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:100 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ไม่กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ ไม่จำกัดวันเทรด

ขนาดบัญชี 10,000 USD

บัญชี Standard Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 10% หรือ $1,000 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 500
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 10% หรือ $1,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $500
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:60 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:200 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ต้องซื้อขายขั้นต่ำ 3 วัน แต่ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Rapid Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 8% หรือ $800 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 500
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 8% หรือ $800
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $500
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:30 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:100 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ไม่กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Knight Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 10% หรือ $1,000
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 6% หรือ $600
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 3% หรือ $300
• เลเวอเรจกำหนดที่ 1:30 ไม่มีให้เลือก
• ไม่กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Dragon Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 8% หรือ $800 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 500 / รอบสาม กำไร 5% หรือ $ 500
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 10% หรือ $1,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $500
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:30 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:100 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ไม่กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ ไม่จำกัดวันเทรด

ขนาดบัญชี 25,000 ดอลลาร์

บัญชี Standard Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 10% หรือ $2,500 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 1,250
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 10% หรือ $2,500
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $1,250
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:60 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:200 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ต้องซื้อขายขั้นต่ำ 3 วัน แต่ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Rapid Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 8% หรือ $2,000 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 250
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 8% หรือ $2,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $250
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:30 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:100 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ไม่กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Knight Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 10% หรือ $2,500
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 6% หรือ $1,500
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 3% หรือ $750
• เลเวอเรจกำหนดที่ 1:30 ไม่มีให้เลือก
• ไม่กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Dragon Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 8% หรือ $2,000 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 1,250 / รอบสาม กำไร 5% หรือ $ 1,250
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 10% หรือ $2,500
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $1,250
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:30 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:100 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ไม่กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ ไม่จำกัดวันเทรด

ขนาดบัญชี 50,000 ดอลลาร์

บัญชี Standard Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 10% หรือ $5,000 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 2,500
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 10% หรือ $5,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $2,500
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:60 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:200 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ต้องซื้อขายขั้นต่ำ 3 วัน แต่ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Rapid Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 8% หรือ $4,000 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 2,500
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 8% หรือ $4,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $2,500
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:30 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:100 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ไม่กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Royal Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 8% หรือ $4,000 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 2,500
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 10% หรือ $5,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $2,500
• เลเวอเรจกำหนดที่ 1:200 ไม่มีให้เลือก เทรดข้ามสัปดาห์ได้
• กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ 5 วันเป็นอย่างน้อย แต่ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Knight Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 10% หรือ $5,000
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 6% หรือ 3,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 3% หรือ $1,500
• เลเวอเรจกำหนดที่ 1:30 ไม่มีให้เลือก
• ไม่กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Dragon Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 8% หรือ $4,000 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 2,500 / รอบสาม กำไร 5% หรือ $ 2,500
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 10% หรือ $5,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $,2500
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:30 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:100 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ไม่กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ ไม่จำกัดวันเทรด

ขนาดบัญชี 100,000 ดอลลาร์

บัญชี Standard Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 10% หรือ $10,000 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 5,000
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 10% หรือ $10,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $5,000
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:60 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:200 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ต้องซื้อขายขั้นต่ำ 3 วัน แต่ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Rapid Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 8% หรือ $8,000 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 5,000
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 8% หรือ $8,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $5,000
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:30 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:100 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ไม่กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Royal Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 8% หรือ $8,000 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 5,000
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 10% หรือ $10,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $5,000
• เลเวอเรจกำหนดที่ 1:200 ไม่มีให้เลือก เทรดข้ามสัปดาห์ได้
• กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ 5 วันเป็นอย่างน้อย แต่ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Knight Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 10% หรือ $10,000
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 6% หรือ $6,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 3% หรือ $3,000
• เลเวอเรจกำหนดที่ 1:30 ไม่มีให้เลือก
• ไม่กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Dragon Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 8% หรือ $8,000 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 5,000 / รอบสาม กำไร 5% หรือ $ 5,000
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 10% หรือ $10,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $5,000
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:30 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:100 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ไม่กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ ไม่จำกัดวันเทรด

ขนาดบัญชี 200,000 ดอลลาร์

บัญชี Standard Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 10% หรือ $20,000 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 10,000
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 10% หรือ $20,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $10,000
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:60 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:200 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ต้องซื้อขายขั้นต่ำ 3 วัน แต่ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Rapid Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 8% หรือ $16,000 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $10,000
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 8% หรือ $16,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $10,000
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:30 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:100 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ไม่กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Royal Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 8% หรือ $16,000 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 10,000
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 10% หรือ $20,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $10,000
• เลเวอเรจกำหนดที่ 1:200 ไม่มีให้เลือก เทรดข้ามสัปดาห์ได้
• กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ 5 วันเป็นอย่างน้อย แต่ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Knight Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 10% หรือ $20,000
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 6% หรือ $12,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 3% หรือ $6,000
• เลเวอเรจกำหนดที่ 1:30 ไม่มีให้เลือก
• ไม่กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Dragon Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 8% หรือ $16,000 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 10,000 / รอบสาม กำไร 5% หรือ $ 10,000
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 10% หรือ $20,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $10,000
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:30 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:100 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ไม่กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ ไม่จำกัดวันเทรด

ขนาดบัญชี 300,000 ดอลลาร์

บัญชี Standard Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 10% หรือ $30,000 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $15,000
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 10% หรือ $30,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $15,000
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:60 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:200 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ต้องซื้อขายขั้นต่ำ 3 วัน แต่ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Royal Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 8% หรือ $24,000 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 15,000
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 10% หรือ $30,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $15,000
• เลเวอเรจกำหนดที่ 1:200 ไม่มีให้เลือก เทรดข้ามสัปดาห์ได้
• กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ 5 วันเป็นอย่างน้อย แต่ไม่จำกัดวันเทรด

ขนาดบัญชี 400,000 ดอลลาร์

บัญชี Standard Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 10% หรือ $40,000 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $20,000
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 10% หรือ $40,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $20,000
• เลเวอเรจสูงสุดเลือก Swing 1:60 แต่เทรดข้ามสัปดาห์ได้ / Regular 1:200 ไม่ให้เทรดข้ามสัปดาห์
• ต้องซื้อขายขั้นต่ำ 3 วัน แต่ไม่จำกัดวันเทรด

บัญชี Royal Challenge

• เป้าหมายกำไรรอบแรกคือ 8% หรือ $32,000 / รอบสอง กำไร 5% หรือ $ 20,000
• สะสมการขาดทุนต้องไม่เกิน 10% หรือ $40,000
• การขาดทุนต่อวัน ต้องไม่เกิน 5% หรือ $20,000
• เลเวอเรจกำหนดที่ 1:200 ไม่มีให้เลือก เทรดข้ามสัปดาห์ได้
• กำหนดวันซื้อขายขั้นต่ำ 5 วันเป็นอย่างน้อย แต่ไม่จำกัดวันเทรด

เงื่อนไข และกติกาในการสอบโดยรวม

• การสอบแต่ละรอบ จะต้องทำตามเงื่อนไขที่กำหนดให้ได้ 100%
• เมื่อสอบผ่านเงื่อนไขของรอบที่ 1 จะได้รับบัญชีรอบที่ 2 ภายใน 24 ชั่วโมง
• ตรวจสอบเงื่อนไขการใช้ EA หรือ บอทเทรดของแต่ละบัญชีด้วย
• การเทรดในช่วงข่าวถูกจํากัดเฉพาะในบัญชีที่ได้รับทุนปกติเท่านั้น มีบางประเภทไม่อนุญาตให้ซื้อขายช่วงข่าว
• สำหรับประเภทบัญชี Dragon Challenge จะใช้ได้แค่โบรกเกอร์ Purple Traing SC และ Think Markets เท่านั้น

STEP แรก: เป็นระดับ Challenge

ทำตามเงื่อนไข ตัวอย่างเช่น บัญชี $5,000 สร้างกำไรได้ตามเงื่อนไข 10% คือ $500 ก็ถือว่าสอบผ่าน รอบัญชีรอบที่ 2

STEP ที่สอง: เป็นระดับ Verification

ทำตามเงื่อนไขของรอบที่ 2 ตัวอย่างเช่น บัญชี $5,000 กำไรรอบที่ 2 กำหนดว่า 5% คือ $250 ถือว่าสอบผ่าน รอรับบัญชีจริง

เมื่อสอบผ่านกองทุน

เมื่อคุณสอบผ่านแล้ว เงื่อนไขที่สำคัญหลัก ๆ ก็คือ การดูแลบัญชีให้คงอยู่ ไม่มีการขาดทุนสะสม หรือ ขาดทุนรายวัน เกินที่กองทุนกำหนดเอาไว้

ภาพรวมการเทรดกับกองทุน

ด้วยระบบของกองทุนที่ดีตลอดมา ทำให้มีความน่าเชื่อถือสูง อีกทั้งมีเทรดเดอร์มืออาชีพ เข้ามาหาความท้าทาย มีการสมัครสอบมากมาย แต่ในภาพรวมของความลื่นไหลจะเป็นอย่างไร สามารถอธิบายได้ดังต่อไปนี้

ความลื่นไหลในการเทรด

ด้วยระบบพาร์ทเนอร์ของโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียง อีกทั้งคะแนนรีวิวมากมายอย่าง EightCap, Purple Purple Traing SC และ Think Markets ทำให้เชื่อใจถึงความลื่นไหลในการเข้าซื้อออเดอร์ได้อย่างสเถียร

Requotes (รีโควต) บ่อยไหม

การรีโควต แทบจะไม่เกิดขึ้นกับระบบกองทุนของ TFT เพราะด้วยระบบหลังบ้านที่ค่อนข้างสเถียรในเรื่องนี้ หลังจากที่ทดสอบก็พบว่าไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แต่ในช่วงเวลาของการประกาศตัวเลขข่าวเศรษฐกิจที่รุนแรง อาจจะพบปัญหาได้อยู่บ้างดังนั้นอาจจะต้องหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงนี้

มีกราฟค้างหรือลากไส้เทียนมากิน Stop Loss (SL) บ่อยไหม

EightCap, Purple Purple Traing SC และ Think Markets เป็นโบรกเกอร์ที่ไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องของการแทรกแซงการซื้อขาย ดังนั้นการลากไส้เทียนมากิน SL นั้น อยู่ที่การคำนวณของเทรดเดอร์ ดังนั้นต้องมีเป้าหมาย และ กำหนดการขาดทุนเอาไว้ กราฟค้างไม่เคยเกิดขึ้น แต่ถ้าใครพบปัญหา อาจจะเกิดกับ MetaTrader ที่เป็นเวอร์ชั่นเก่าต้องอัพเดทอยู่บ่อย ๆ

Slippage บ่อยไหม

เหตุการณ์ Slippage แทบจะไม่เกิดขึ้นในช่วงเวลาปกติ แต่ถ้าเป็นช่วงการเข้าซื้อที่รุนแรง หรือ การประกาศตัวเลขข่าวเศรษฐกิจ บอกเลยว่ายังไงก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกกองทุน และ ทุกโบรกเกอร์ ไม่ว่าจะมีคุณภาพมีการแนะนำว่าดีแค่ไหนก็ตาม เกิดขึ้นได้แน่นอน

ค่าบริการรวม: Spread commission swap

• Spread: เป็นแบบลอยตัว
• Commission: $7 ต่อ Lot
• Swap: มีค่า Swap

Platform ที่ใช้งาน

• Meta Trader 4
• Meta Trader 5

การฝาก–ถอน The Funded Trader (TFT)        

• สามารถฝากผ่านบัตรเครดิต รวมทั้ง สกุลเงินดิจิตอลอื่น ๆ

ความเร็วในการฝาก–ถอน

• เมื่อการชําระเงินได้รับการยืนยันคุณจะได้รับข้อมูลประจําตัวทันที
• ถ้าจ่ายเงินผ่าน Crypto จะดำเนินการภายใน 3 วันทำการ
• ถอนเงินผ่านธนาคาร จะขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีของการสอบกองทุนที่กำหนดเงื่อนไขในการถอน ส่วนใหญ่แล้วจะเร็วสุด 7 วัน นับตั้งแต่ทำรายการแบ่งกำไร

ค่าบริการ / Rate ฝาก–ถอน

• ไม่มีค่าบริการฝากถอน

Copy Trade The Funded Trader (TFT)

ที่กองทุน TFT อัพเดทใหม่ปี 2024 นี้ สามารถที่จะใช้งาน Copy Trade ได้เป็นบางประเภทบัญชีเท่านั้น รวมทั้งการเทรดโดยใช้ EA ซึ่งอาจจะต้องอ่านเงื่อนไขอีกครั้งในการลงทะเบียนสอบ ทางโบรกเกอร์นั้นไม่ได้หวงห้าม แต่ต้องระวังเงื่อนไขว่าบัญชีใดที่ใช้ได้ ที่เห็นหลักเลยก็คือ Standard Challenge

ช่องทางการติดต่อ / Support    

ช่องทางการติดต่อของ TFT ได้เปิดเผยเป็นอีเมลเอาไว้เพียงช่องทางเดียวคือ

• support@thefundedtraderprogram.com

สรุป

ถือได้ว่าเป็นกองทุนที่ยอมเปลี่ยนแปลงกับเวลาในการเทรด 35 วัน เป็น ไม่จำกัดวัน แต่จะต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกับบัญชีเทรดบางประเภทที่จะต้องเทรดอย่างน้อย 3 วัน หรือ 5 วันเป็นเงื่อนไข โดยรวมแล้วถือว่าเงื่อนไขที่อัพเดทในปี 2024 นี้ของ กองทุน TFT หรือ The Funded Trader นั้น ค่อนข้างครบถ้วนในเรื่องของประเภทบัญชี ขนาดของพอร์ต ซึ่งเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทุกคนที่ต้องการท้าทายความสามารถของตัวเอง อีกทั้งพาร์ทเนอร์โบรกเกอร์เทรดอย่าง Eightcap, Purple Traing SC และ Think Markets ที่มีคุณภาพ ทำให้การท้าทายนั้นเป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการ สำหรับการสอบกองทุนนั้นเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ใช้ความสามารถทำกำไรให้กับตนเอง เชื่อเลยว่าเทรดเดอร์หลายคนมีเป้าหมายว่าจุดหนึ่งจะมีพอร์ตลงทุนที่ใหญ่พอสำหรับสร้างกำไรที่มั่นคงต่อไปในอนาคต