เนื้อหาข่าวเต็ม
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การดำเนินงานของกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายหลอกลงทุน Forex รวม 3 ราย ได้แก่ นางสาวอภิญญา นายรัฐรุจน์ และนางสาวประภากร จากคดีหลอกลวงนักลงทุนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยมีการหลอกลวงผู้เสียหายถึง 16 ราย และมูลค่าความเสียหายมากกว่า 6 ล้านบาท
การหลอกลวงเริ่มต้นในเดือนมกราคม 2567 เมื่อกลุ่มผู้เสียหายถูกชักชวนจากอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังบนแพลตฟอร์ม TIKTOK ที่มีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านราย ภายใต้นามแฝง “YUKI” ซึ่งมีการอ้างถึงการลงทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงิน (Forex) พร้อมกับสัญญาผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนดไว้
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาถูกจับกุมในพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงคอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านบางซื่อ และยังมีการตรวจยึดทรัพย์สินมีค่ามากมาย เช่น กระเป๋าแบรนด์เนม Louis Vuitton, Dior, Hermes และรถยนต์หรู BMW และ Lotus รวมถึงทองคำแท่ง นอกจากนี้ ยังพบว่าเว็บไซต์ www.sulfver.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหลอกลวงนั้น ไม่มีการจดทะเบียนบริษัทจริงแต่อย่างใด
หลังจากการจับกุม ผู้ต้องหาทั้งสามคนปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่ามีการชักชวนผู้เสียหายลงทุนจริง ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสอบสวนและติดตามพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อนำคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป
เรียงลำดับเหตุการณ์แบบคนขี้เกียจอ่าน
- ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมเครือข่ายหลอกลงทุน Forex จำนวน 3 ราย ได้แก่ นางสาวอภิญญา, นายรัฐรุจน์, และนางสาวประภากร
- คดีเกิดขึ้นจากการหลอกลวงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยใช้ชื่ออินฟลูเอนเซอร์บน TIKTOK ชื่อ “YUKI” มีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านราย
- ผู้ต้องหาชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนใน Forex ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น TIKTOK, INSTAGRAM, YOUTUBE, LINE และ FACEBOOK
- ใช้เว็บไซต์ sulfver.com อ้างเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนจากประเทศอังกฤษที่ให้ผลตอบแทนสูงเฉลี่ย 84-96% ต่อปี ซึ่งเกินอัตราดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนด
- กลุ่มผู้เสียหายจำนวน 16 ราย แจ้งความหลังถูกหลอกลงทุนและเกิดความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท
- ช่วงแรกผู้เสียหายได้รับผลตอบแทนตามที่โฆษณา แต่ต่อมาไม่มีการจ่ายผลตอบแทนและเว็บไซต์ได้ปิดตัวลง
- การตรวจสอบพบว่าเว็บไซต์ sulfver.com ไม่มีอยู่จริง และบริษัท SULFVER ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
- ทรัพย์สินที่ถูกยึดในการจับกุมประกอบด้วยกระเป๋าแบรนด์เนม Louis Vuitton, Dior, Hermes, รถยนต์หรู BMW, Lotus, และทองคำแท่ง
- ผู้ต้องหาทั้งสามปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่ามีการชักชวนผู้เสียหายลงทุนจริง
- คดีอยู่ภายใต้การดำเนินงานของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และผู้บริหารระดับสูงในกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.)
- ตำรวจยังคงดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ข้อแตกต่างระหว่างการลงทุน Forex กับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง
- การลงทุน Forex จริง:
- หน่วยงานกำกับดูแล: การลงทุนในตลาด Forex จริงได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานการเงินที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) หรือองค์กรอื่นๆ ในประเทศต่างๆ
- แพลตฟอร์มที่ได้รับอนุญาต: การเทรด Forex จริงจะต้องทำผ่านโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาต (License) และมีแพลตฟอร์มที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
- ความโปร่งใส: การเทรด Forex จริงเป็นการซื้อขายสกุลเงินในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ และผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบราคาและข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ได้
- ผลตอบแทนตามสภาวะตลาด: ผลตอบแทนจากการลงทุน Forex ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดและการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยไม่มีการรับประกันผลตอบแทนที่สูงผิดปกติ
- ความเสี่ยงตามจริง: การลงทุนใน Forex มีความเสี่ยงจริงที่ต้องเผชิญ เช่น ความผันผวนของตลาดและสภาวะเศรษฐกิจ โดยโบรกเกอร์จะมีการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงอย่างชัดเจน
- เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง:
- หลอกลวงไม่มีหน่วยงานกำกับดูแล: เหตุการณ์นี้เกิดจากการหลอกลวง ไม่มีการรับรองหรือควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน เช่น กลต. หรือหน่วยงานอื่นๆ
- เว็บไซต์หลอกลวง: เว็บไซต์ที่ใช้ในการหลอกลวง เช่น sulfver.com ไม่ได้จดทะเบียนถูกต้อง และไม่มีแพลตฟอร์มที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมาย
- ข้อมูลที่บิดเบือน: การหลอกลวงนี้ใช้การบิดเบือนข้อมูล โดยอ้างว่าเป็นการลงทุน Forex แต่ไม่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินตามจริง และไม่มีการตรวจสอบข้อมูลที่โปร่งใส
- ผลตอบแทนที่ผิดปกติ: การหลอกลวงอ้างว่ามีผลตอบแทนสูงเกินจริงถึง 84-96% ต่อปี แบบนั่งรอรับเงินไม่ต้องเทรดเอง … ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงของการลงทุนในตลาด Forex ที่มีความเสี่ยงสูง
- การปิดตัวของเว็บไซต์: ในเหตุการณ์นี้ เว็บไซต์ที่ใช้ในการชักชวนลงทุนได้ปิดตัวลงหลังจากที่ผู้เสียหายไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่โฆษณา
- การไม่จดทะเบียนบริษัท: บริษัทที่อ้างว่าเป็นผู้ดำเนินการลงทุนใน Forex เช่น SULFVER ไม่ได้จดทะเบียนทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ ไม่มีใบอนุญาตในการดำเนินกิจการตามกฎหมาย
บทเรียนที่ได้เรียนรู้จากเรื่องนี้
การลงทุนใน Forex ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการสร้างรายได้เสริมหรือเพิ่มพูนความมั่งคั่ง มันเป็นเรื่องของการลงทุนของ “นักลุงทุน” ที่เขาเทรดกันทั้งโลกเป็นปกติอยู่แล้ว….
แต่ในขณะเดียวกันก็เสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราอยู่ในยุคที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียในการชักชวนลงทุนกันอย่างง่ายดาย “คนดังไม่สามารถไว้ใจได้เสมอไป”
สิ่งนี้สอนให้เราทราบถึงความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนการลงทุน และนี่คือบทเรียนสำคัญที่นักลงทุนทุกคนควรเรียนรู้:
1. ต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแหล่งที่มา และตัวบุคคล
- การหลอกลวงมักมาในรูปแบบของการแสดงให้เห็นถึงผลกำไรที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อผ่านแพลตฟอร์มที่ดูน่าเชื่อถือ (มั้ง ผมไม่ทันได้เห็น มันปิดไปก่อน ถ้าเห็นทันคิดว่าไม่พลาดสายตานักสืบผมได้)
- สิ่งที่เราควรทำคือการตรวจสอบแหล่งข้อมูลที่มาชักชวนให้ลงทุน
- ไม่ว่าจะเป็นบริษัท
- บุคคล
- หรือแพลตฟอร์มนั้นๆ
ให้ละเอียดว่าได้รับอนุญาตหรือมีประวัติความน่าเชื่อถืออย่างไรบ้าง ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน
2. อยู่ให้ห่างคนที่บอกถึงผลตอบแทนที่ฟังดูดีเกินจริง
หนึ่งในสัญญาณที่สำคัญที่สุดของการหลอกลวงคือการเสนอผลตอบแทนที่ฟังดูดีเกินจริง เช่น
- “สัญญา” ว่าจะได้กำไรสูงในระยะเวลาสั้นๆ
- ไม่ต้องทำงานหนักใดๆ เพื่อได้ผลตอบแทนเหล่านั้น
การลงทุนที่น่าเชื่อถือมักจะมีผลตอบแทนที่สอดคล้องกับความเสี่ยง หากมีการเสนอผลตอบแทนที่เกินธรรมชาติ สิ่งนั้นมักจะเป็นการหลอกลวง
“ปู่วอเรน บัฟเฟต (Warren Buffett) ยังได้กำไร 20% ต่อปี (ราว 1.53% ต่อเดือน) นี่นักลงทุนระดับโลกนะ ใครการันตีเกินนี้ต้องฉุกคิดกันบ้าง”
3. ต้อง!!! ศึกษา หรือมีความรู้เกี่ยวกับการลงทุนด้วย
- นักลงทุนที่มีความรู้และเข้าใจในหลักการลงทุนจะสามารถรับมือกับข้อเสนอที่ไม่น่าเชื่อถือได้ดียิ่งขึ้น
- การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตลาดการเงิน เช่น Forex, หุ้น หรือสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างน้อย 2-3 ปีก่อนลงทุน ก่อนลงเงินจริง จะช่วยให้เรามีเกณฑ์ในการตัดสินใจลงทุน ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
4. การตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- “หูหนักเข้าไว้ ค้นคว้าข้อมูลเองบ้าง อย่าฟังแต่เพื่อนหรือคนใกล้ตัว”
- การตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น แหล่งอ้างอิง License ที่รับรอง จะช่วยให้นักลงทุนทราบว่าบริษัทหรือบุคคลที่ชักชวนให้ลงทุนได้รับอนุญาตหรือไม่
- นอกจากนี้ การอ่านรีวิวหรือความเห็นจากผู้ลงทุนรายอื่นๆ “ที่มีประสบการณ์” (ไม่เอาจากคนใกล้ตัวหรือคนที่ไม่เคยลงทุน พวกไก่กาอาราเล่ย์นะครับ) จะเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยในการตรวจสอบความน่าเชื่อถือได้
5. การให้ความสำคัญกับความเสี่ยง
การลงทุนทุกประเภทมักมีความเสี่ยงเป็นปกติ ไม่มีการลงทุนใดที่ปราศจากความเสี่ยง ดังนั้น การเข้าใจความเสี่ยงและยอมรับว่าอาจมีโอกาสสูญเสียเงินลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ
หากมีการเสนอให้ลงทุนในโครงการที่อ้างว่าปลอดภัย 100% ก็ถือว่าน่าสงสัย
6. ระวังการชักชวนจากคนรู้จักหรือโซเชียลมีเดีย
- บางครั้งการหลอกลวงมาในรูปแบบจากคนที่ “เราไว้ใจ” เช่น
- การชักชวนจากคนรู้จักหรือคนมีชื่อเสียงในโลกโซเชียล
- ก็ตั้งแต่กรณี Forex3D มาละ ก็เหล่าคนดังทั้งนั้น … ยัง ..ยัง ยังไม่เข็ด….
- แม้เราอาจรู้สึกไว้วางใจมากขึ้นเมื่อมีการเชิญชวนจากบุคคลที่เราคุ้นเคย แต่สิ่งนี้อาจกลายเป็นการหลอกลวงที่ซับซ้อนมากขึ้น
- ดังนั้น การตรวจสอบข้อมูลและทำวิจัยเป็นสิ่งที่ยังจำเป็นแม้ว่าแหล่งที่มาจะดูน่าเชื่อถือก็ตาม
สรุป
การลงทุน Forex จริงๆ จะมีความโปร่งใสและได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่เหตุการณ์นี้ ถือเป็นการหลอกลวงที่ใช้ชื่อ Forex เพื่อหลอกลวงผู้เสียหาย (Forex=แพะ) โดยอ้างผลตอบแทนที่สูงผิดปกติและไม่มีความโปร่งใส ที่สำคัญมักมากับ
“การฝากคนอื่นเทรด แล้วนั่งรอรับเงิน !! ” คิดง่ายๆ กำไรดีและง่ายขนาดนี้เขากู้ Bank มาลงทุนเองไม่ดีกว่าหรือ ?
* อนึ่งเรื่องราวนี้ยังไม่จบนะครับ ศาลยังไม่ได้ตัดสิน ทาง EAForexcenter เขียนออกมาในทางอุทาหรณ์การลงทุนเท่านั้น อย่างไรก็ถือว่าผู้ต้องหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะถึงวันตัดสินของศาลครับ เป็นกำลังใจให้ผู้เสียหายและนักลงทุนทุกท่านนะครับ ….
อ้างอิง
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4747723
"เริ่มต้นอย่างช้าๆ แต่ชัดเจน"
ให้เราได้ดูแลคุณ...
eaforexcenter.com