- อินดิเคเตอร์ตัวนี้ถูกคิดค้นขึ้นตั้งแต่ปี 1950 โดย George C. Lane ผู้ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์ทางเทคนิคสายเทรดระดับตำนาน
- Stochastic Oscillator เป็นเครื่องมือวัดความแรงของราคาปัจจุบันเทียบกับช่วงราคาที่ผ่านมาในระยะเวลาหนึ่ง โดยมีเป้าหมายหลักคือ ตรวจจับ "Overbought" และ "Oversold" หรือภาวะที่มีการซื้อหรือขายมากเกินไป
- แม้จะคล้าย RSI อยู่บ้าง แต่ STO มีความไวมากกว่า จึงตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของราคาได้เร็วกว่านั่นเองครับแต่ก็มีข้อเสียนะครับ ไว้ไปดูบทความเปรียบเทียบ RSI และ STO ในบทความหน้า
สูตรการคำนวณ Stochastic Oscillator
รูปที่ 1 สูตรการคำนวณ Stochastic Oscillator
สมการ Stochastic Oscillator
แม้จะดูซับซ้อนในตอนแรก แต่จริง ๆ แล้วสูตรของ STO มีแค่ 2 ค่า คือ %K และ %D โดยที่
- %K = 100 x [(ราคาปัจจุบัน - ราคาต่ำสุดใน n วัน) / (ราคาสูงสุดใน n วัน - ราคาต่ำสุดใน n วัน)]
- %D = ค่าเฉลี่ยของ %K ในช่วง 3 วัน (ใช้สูตร SMA - Simple Moving Average)
- โดยทั่วไปแล้ว พารามิเตอร์ที่นิยมใช้กันคือ
- %K period = 14
- %D period = 3
- Slowing = 3
ค่า %K จะขึ้นเร็ว ส่วน %D จะนิ่มนวลกว่า เพราะเป็นเส้นค่าเฉลี่ย ช่วยให้เรามองเห็นจังหวะการเข้าออกได้ชัดเจนมากขึ้นนั่นเองครับ
ตัวอย่างการคำนวณ
สมมุติว่าเราดูกราฟใน Timeframe รายวัน (Daily) และเลือกช่วง 14 วันที่ผ่านมา
- ราคาปิดวันนี้ (Current Close) = 90
- ราคาสูงสุดใน 14 วันที่ผ่านมา (Highest High) = 100
- ราคาต่ำสุดใน 14 วันที่ผ่านมา (Lowest Low) = 80
แทนลงสมการหาค่า %K
- %K = 100 × [(90 - 80) ÷ (100 - 80)]
- %K = 100 × [10 ÷ 20]
- %K = 100 × 5
- %K = 50
แทนลงสมการหาค่า %D
- สมมุติว่าเรามีค่า %K 3 วันล่าสุด ดังนี้ วันที่ 1-3 ตามลำดับคือ 60,55 และ 50
- %D = (60 + 55 + 50) ÷ 3
- %D = 165 ÷ 3
- %D = 55
สรุปผลลัพธ์จากตัวอย่าง
- %K = 50 → แสดงว่าราคาปิดอยู่ "กลางช่วง"
- ไม่ได้อยู่ในโซน Overbought (>80) หรือ Oversold (<20)
- แต่จะมีแรงซื้อมากกว่าแรงขายเล็กน้อย
Fast และ Slow Stochastic ข้อแตกต่างนี้สำคัญ
รูปที่ 2 การเปรียบเทียบระหว่าง Fast และ Slow Stochastic
Fast Stochastic:ต้นฉบับสายสัญญาณไว
- คิดค้นโดย George C. Lane
- เน้นความรวดเร็วในการจับการเปลี่ยนแปลงของราคา
- นิยมใช้ดู Divergence เพื่อหาจุดกลับตัว Buy/Sell
- มีสัญญาณเยอะ แต่ก็มาพร้อม "สัญญาณหลอก" (False Signal) มากขึ้นเช่นกัน
สูตรของ Fast Stochastic
- Fast %K = ค่าคำนวณจากสูตรพื้นฐาน
- Fast %D = 3-period SMA ของ Fast %K
Slow Stochastic: เวอร์ชันนิ่ง ๆ แม่นขึ้น
- เป็นเวอร์ชันปรับปรุงของ Fast เพื่อให้ "เนียน" ขึ้น
- เอา Fast %K มาทำ Smooth อีกที ด้วย 3-period SMA
- ช่วยลด Noise และทำให้สัญญาณดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
- นิยมใช้มากในปัจจุบัน ทั้งในไทยและต่างประเทศ
สูตรของ Slow Stochastic
- Slow %K = Fast %K ถูก Smooth ด้วย 3-period SMA
- Slow %D = 3-period SMA ของ Slow %K หรือ เท่ากับ
รูปที่ 3 ตัวอย่างการแสดงค่าพารามิเตอร์ของ Stochastic Oscillator บน MT5
- Stochastic Oscillator ใน MT4/MT5 เป็นแบบ Slow Stochastic นะครับ และ ทำไมถึงเป็น Slow ?
- เพราะเมื่อคุณเปิด Indicator ขึ้นมาใน MT4 หรือ MT5 จะเห็นว่ามีให้ตั้งค่า %K period ,%D period และ Slowing ค่าตัวนี้เองที่บอกว่าเป็น Slow เพราะการใส่ค่า "Slowing = 3" หมายถึงระบบเอา Fast %K ไป Smooth ด้วยค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (SMA) 3 วัน → กลายเป็น Slow %K ตามสูตรเลยครับ
- ถ้าอยากได้ Fast Stochastic บน MT4/MT5 ทำไง? ง่ายมากครับ แค่ไปที่หน้าตั้งค่าของ Indicator แล้วเปลี่ยน: Slowing = 1 (นั่นแปลว่าไม่ต้อง Smooth ค่า %K เลย → กลายเป็น Fast Stochastic ทันที)
พื้นฐานการใช้งานของ Stochastic Oscillator
รูปที่ 4 พื้นฐานการใช้งานของ Stochastic Oscillator ในการเทรด
สัญญาณทั่วไปในการหาปริมาณซื้อขายที่มากเกินไป
- Overbought: ถ้าค่า %K และ %D สูงกว่า 80 → ราคาอาจ “ขึ้นแรงเกินไป” มีโอกาสปรับฐาน
- Oversold: ถ้าค่า %K และ %D ต่ำกว่า 20 → ราคาอาจ “ลงแรงเกินไป” มีโอกาสรีบาวด์กลับขึ้น
สัญญาณตัดกัน (Crossover) ในการส่ง Signal
- Buy Signal: เมื่อเส้น %K ตัดขึ้นเหนือ %D → เป็นสัญญาณซื้อ
- Sell Signal: เมื่อ %K ตัดลงต่ำกว่า %D → เป็นสัญญาณขาย
สัญญาณ Divergent เพื่อดูการกลับตัว
- ใช้ STO ตรวจสอบว่าราคาและอินดิเคเตอร์ “ไม่ไปทางเดียวกัน”
- ราคา “ทำ New High” แต่ STO “ทำ High ต่ำลง” → สัญญาณกลับตัวลง
- ราคา “ทำ New Lo w” แต่ STO “ทำ Low สูงขึ้น” → สัญญาณกลับตัวขึ้น
การใช้ STO + ADX ในการเขียน EA บน Fxdreema
รูปที่ 5 การใช้ STO + ADX ในการเขียน EA บน Fxdreema
รูปที่ 6 ผลลัพธ์การ Backtest STO + ADX ในระยะเวลา 2 ปี
- เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ข้อควรระวังในการใช้ STO
- ใช้ในตลาด Sideways หรือช่วงปรับฐาน STO จะทำงานแม่นในตลาดที่ไม่มีเทรนด์ชัดเจน
เพราะสัญญาณ Overbought/Oversold จะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นนั่นเอง - ใช้ร่วมกับเทคนิคอื่น STO เพียงอย่างเดียวอาจมีสัญญาณหลอก (false signals)
ดังนั้นจึงควรใช้ร่วมกับ
- แนวรับ-แนวต้าน
- Trendline
- อินดิเคเตอร์อื่น เช่น MACD หรือ RSI
- หลีกเลี่ยงการเทรดสวนเทรนด์ หากตลาดเป็นเทรนด์แรง เช่น Uptrend → STO อาจ Overbought อยู่หลายวันโดยที่กราฟยังขึ้นต่อ ดังนั้นอย่าเพิ่งรีบเข้า Sell เพราะเห็นแค่ %K > 80
ควรรอสัญญาณยืนยันจากอย่างอื่นร่วมด้วย
สรุป
- ถ้าอยากใช้ Stochastic Oscillator ให้เวิร์ก ต้องเข้าใจธรรมชาติของมันก่อนนะครับ ว่าเจ้า STO ตัวนี้เหมาะมากกับช่วงตลาด Sideway เพราะช่วยบอกจุด Overbought/Oversold ได้แม่นพอสมควร
- แต่ถ้าเจอเทรนด์แรง ๆ อาจมีหลอกบ้าง ดังนั้นอย่าใช้เดี่ยว ๆ ควรจับคู่กับอินดิเคเตอร์อื่นอย่าง MACD หรือ Bollinger Bands จะช่วยให้ตัดสินใจแม่นขึ้น
- ที่สำคัญคืออย่าดูแค่ค่า %K หรือ %D อย่างเดียว ให้สังเกตจังหวะตัดกันหรือดูแนวโน้มของกราฟด้วย เทรดอย่างมีแผน แล้ว STO จะเป็นผู้ช่วยที่ดีให้คุณแน่นอนครับ
อ้างอิง
- StockCharts.com. (n.d.). Stochastic Oscillator (fast, slow and full). ChartSchool by StockCharts. Retrieved March 29, 2025, from https://chartschool.stockcharts.com/table-of-contents/technical-indicators-and-overlays/technical-indicators/stochastic-oscillator-fast-slow-and-full
"เริ่มต้นอย่างช้าๆ แต่ชัดเจน"
ให้เราได้ดูแลคุณ...
eaforexcenter.com