ฉบับย่อ
- โบรกเกอร์ตัวจริง มักจะไม่ชวนลงทุน เร่งให้โอนเงินหรือแม้กระทั่งโชว์ความรวยของตนหรือผู้อื่น
- โบรกเกอร์ควรที่จะมี ใบอนุญาตที่ถูกต้อง สามารถอธิบายค่าใช้ต่างๆได้ชัดเจน ควรมีความน่าเชื่อถือมีผู้ใช้บริการรีวิวในทางบวกและต้องมีการบริการที่ดีอีกด้วย
ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ยังไง
สวัสดีครับ ผมเป็นเจ้าหน้าที่จากโบรกเกอร์ xxx และที่ปรึกษาการลงทุนจากประเทศไซปรัส… ปีนี้เพิ่งจะเปิดบริษัทโบรกเกอร์ในประเทศไทยเป็นเจ้าแรก เพื่อเป็นการฉลอง โบรกเกอร์ของเราเปิดโอกาสให้คนไทยลงทุนในโบรกเกอร์ของเรา เพียงลงเงินกับเรา 100,000 บาท ก็จะได้ผลตอบแทน 20,000 บาททุกเดือนเป็นเวลา 2 ปี ความเสี่ยงต่ำ กำไรงาม ถ้าสนใจโอนภายในวันนี้ เราจะเพิ่มโบนัสให้อีก 20% ทุก ๆ เดือน…. ถ้าคุณเจอแบบนี้เข้าไปคุณจะรู้ได้ยังไงครับว่าเขาเป็นโบรกเกอร์จริง หรือ นักต้มตุ๋น?
- ข้อสังเกตที่ 1 คือ โบรกเกอร์จะ ไม่ โทรมา หรือ inbox มาเพื่อชวนใครลงทุน
- ข้อสังเกตที่ 2 คือ นักต้มตุ๋นมักจะรับรองกำไรงาม ทั้งที่ความเป็นจริงการลงทุนไม่สามารถการันตรีผลตอบแทนได้ขนาดนั้น
- ข้อสังเกตที่ 3 คือ เร่งให้โอนเงิน
- ข้อสังเกตที่ 4 คือ นักต้มตุ๋นมักจะอวดการใช้ชีวิตที่ หรูหรา ไฮโซ ภาพลักษณ์ดี อวดว่าผู้ใช้บริการกับเขามากมายหลายคน (หน้าม้า)
- ข้อสังเกตที่ 5 คือ มักจะชอบอวดความสำเร็จของคนที่ใช้บริการกับเขา (หน้าม้า)
นี่เป็นเพียง 5 ข้อสังเกตง่าย ๆ ที่สามารถนำไปใช้คัดกรองโบรกเกอร์จริง ๆ กับ กลุ่มแก๊งนักต้มตุ๋นได้ แต่อย่างไรก็ตามปัจจุบันก็ยังมีอีกหลาย ๆ กลุ่มที่มีความแนบเนียนในการหลอกลวงโดยการอุปโลกน์โบรกเกอร์ปลอม ๆ ขึ้นมา… ทีนี่เราจะมีวิธีจับไต๋ของโบรกเกอร์เหล่านี้ยังไงล่ะ? และเราจะ ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ยังไง
บทความนี้จะเบิกเนตรให้คุณได้ทราบถึง 4 สิ่งที่สามารถแยกแยะระหว่างโบรกเกอร์จริง กับ โบรกเกอร์ปลอม ออกจากกันได้ง่าย ๆ ครับ
1. หน่วยงานกำกับดูแลและการออกใบอนุญาต
ปัจจุบันมีหน่วยงานจดทะเบียนโบรกเกอร์ Forex โดยเฉพาะ หน่วยงานนี้มีหน้าที่ในการตรวจสอบกำกับดูแลโบรกเกอร์ให้เป็นไปตามระเบียบเพื่อป้องกันการทุจริต และฉ้อโกงในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การทำแชร์ลูกโซ่ เป็นต้น ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้จะมีข้อบังคับและกฎเกณฑ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ทว่าโดยทั่วไปก็จะมีข้อกำหนดราว ๆ นี้ครับ
- การตรวจสอบงบการเงินประจำปี โดยผู้ตรวจสอบบัญชี
- การตรวจสอบเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
- การเก็บรักษาเงินทุนของลูกค้าที่ต้องแยกบัญชีต่างหากไม่ให้เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่าย, ภาระหนี้สินของบริษัท
- การตรวจสอบมาตรฐานการบริการ และการตรวจสอบข้อร้องเรียน
- เงื่อนไขการชดเชยกรณีที่โบรกเกอร์ประสบปัญหาทางหนี้สินหรือล้มละลาย
อย่างไรก็ตาม ณ ปี 2566 ประเทศไทยเรายังไม่อนุญาตให้ผู้ใดก่อตั้งและจดทะเบียนโบรกเกอร์ Forex ภายในประเทศได้ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าโบรกเกอร์ต่าง ๆ มันจะมีสำนักงานอยู่ต่างประเทศกันทั้งสิ้น เช่น ประเทศอังกฤษ, ประเทศออสเตรเลีย, ประเทศอเมริกา, ประเทศไซปรัส, และประเทศเบลิซ เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้เอง หากใครพบเห็น หรือ ได้ข่าวว่า โบรกเกอร์ xxx มาบอกคุณว่าเป็นโบรกเกอร์ใหม่ที่จัดพึ่งจัดตั้งและทะเบียนในประเทศ ให้คุณมั่นใจ 99.9% ได้เลยว่าเขาตั้งใจมาหลอกเอาเงินในกระเป๋าของคุณครับ
เอาล่ะครับเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ผมจะขอสรุปข้อมูลหน่วยงานที่กำกับดูแล และออกใบอนุญาตให้โบรกเกอร์ต่าง ๆ รวมไปถึงเงื่อนไขที่เขากำหนดให้โบรกเกอร์ปฏิบัติตามแบบคร่าว ๆ ดังนี้
ชื่อหน่วยงาน | ชื่อประเทศ | ข้อกำหนดต่อโบรกเกอร์ |
FCA | อังกฤษ | · ต้องมีเงินทุนหมุนเวียน อย่างน้อย 1 ล้านปอนด์
· ต้องเก็บเงินลูกค้า ไว้ในบัญชีที่แยกบัญชีออกจากบัญชีของบริษัท และไม่ใช้เงินของผู้ค้าเพื่อวัตถุประสงค์อื่น · ต้องจัดทำรายงานการตรวจสอบประจำปี และงบการเงิน เพื่อยืนยันว่าข้อเท็จจริงทั้งหมดที่ให้ไว้กับ FCA · ต้องมีการรับประกัน เงินชดเชยสูงถึง 50,000 ปอนด์ สำหรับลูกค้าในกรณีที่โบรกเกอร์ล้มละลาย |
ASIC | ออสเตรเลีย | · ต้องมีเงินทุนหมุนเวียน อย่างน้อย 1 ล้านเหรียญ
· ต้องแยกเก็บเงินของลูกค้าไว้ในธนาคารชั้นนำของประเทศออสเตรเลีย · ไม่ได้จำกัดการเทรดในรูปแบบ Hedging และ Scalping · ต้องมีแพลตฟอร์มที่รวดเร็ว, มีประสิทธิภาพสำหรับการซื้อขาย · การซื้อขายควรเป็นไปอย่างราบรื่น และไม่มีการแทรกแซง |
NFA | อเมริกา | · ต้องมีทุนจดทะเบียนอย่างน้อย 20 ล้านเหรียญสหรัฐ
· ต้องส่งรายงานให้ NFA ทุกสัปดาห์ และมีการ Audit ตรวจสอบรับรองทุกปี |
CySEC | ไซปรัส | · ต้องมีเงินทุนหมุนเวียน อย่างน้อย 750,000 ยูโร
· ต้องส่งงบการเงินประจำปี · ต้องมีการรับประกันชดเชยเงินสูงสุด 20,000 ยูโรให้ลูกค้าในกรณีที่โบรกเกอร์ล้มละลาย |
FSC | เบลิช | · ต้องมีเงินทุนหมุนเวียนอย่างน้อย 500,000 เหรียญ
· บริษัทต้องจัดเก็บเงินทุนของลูกค้า แยกออกจากบัญชีของบริษัท · บริษัทต้องส่งรายงานประจำเดือน โดยประกอบด้วยรายละเอียดเช่น Volume การซื้อขาย, รายงานการเงิน · การรับผิดชอบและจัดการกับข้อร้องเรียนของลูกค้า |
FCA = Financial Conduct Authority, United Kingdom
ASIC = Australian Securities and Investments Commission
NFA = National Futures Association
CySEC = Cyprus Securities and Exchange Commission
FSC = The Financial Services Commission
ตารางข้างบนนี้เป็นเพียงหน่วยงานบางส่วนเท่านั้น ซึ่งยังมีอีกหลาย ๆ ประเทศที่มีหน่วยงานดูแลอยู่ เช่น ประเทศแคนาดาก็จะมีหน่วยงาน BCSC, OSC, CIPF เข้ามาดูแล หากเป็นประเทศญี่ปุ่นก็จะมี FFAJ และ FSA กำกับดูแลอยู่ หากเป็นประเทศสวิซเซอร์แลนด์เองก็มี SFDF, FINMA, ARIF ดูแลอยู่ เป็นต้น ดังนั้นนักลงทุน หรือ เทรดเดอร์ควรจะค้นหาข้อมูลเหล่านี้และเช็คให้ชัวร์ก่อนที่จะเลือกใช้โบรกเกอร์นั่น ๆ ครับ
2. ต้นทุนการซื้อขายและค่าธรรมเนียม
โบรกเกอร์จริง ๆ จะสามารถอธิบายถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เทรดเดอร์จะต้องจ่าย เช่น ค่าธรรมเนียมการฝาก – ถอนเงิน, ราคา bid – ask, ค่าสเปรด, และค่าคอมมิชชั่นต่าง ๆ เป็นต้น ถ้าหากเป็นไปได้แล้วล่ะก็เทรดเดอร์เองควรจะศึกษา และเปรียบเทียบข้อมูลเหล่านี้กับโบรกเกอร์อื่น ๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของเทรดเดอร์เองด้วยครับ
3. ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ
ต้องบอกกันอย่างตรง ๆ เลยครับว่า ชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือมีผลอย่างมากที่จะบ่งชี้ว่าโบรกเกอร์ไหนเป็นของจริงของปลอม เนื่องจากโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตมาจริง ๆ เขาจะสามารถอยู่รอดในตลาดได้นานมาก ๆ สาเหตุมีหลายประการ ยิ่งถ้าโบรกเกอร์ไหนมีประวัติการก่อตั้งมากกว่า 10 ปี ก็ยิ่งน่าเชื่อถือเข้าไปใหญ่
อีกหนึ่งทางเลือกที่จะดูชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ คือ บทความรีวิวทั้งหลายแหล่ เพราะคนกลุ่มนี้สามารถวิพากษ์วิจารโบรกเกอร์ได้อย่างอิสระ คุณจะรู้เลยว่านิสัยใจคอของโบรกเกอร์แต่ละเจ้าเป็นอย่างไร มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร หรือ เป็นโบรกเกอร์เถื่อน หรือ เป็นโบรกเกอร์แชร์ลูกโซ่หรือไม่ครับ
4. การบริการลูกค้าและการสนับสนุนลูกค้า
โบรกเกอร์จัดเป็นการบริการในรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้กันเมื่อใครทำธุรกิจให้บริการ คนนั้นต้องบริการ อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้ลูกค้าด้วยความสมัครใจ ดังนั้นเว็บไซน์ของโบรกเกอร์ควรจะมี ระบบการฝาก-ถอนเงินที่ดี, ระบบสมัครสมาชิกที่ง่ายและปลอดภัย, ต้องมีแพลตฟอร์มการเทรดที่ได้มาตรฐานสากล, ต้องมีคู่มือแนะนำการใช้งานเป็นขั้นเป็นตอน, และโปรโมชั่น หรือ โบนัสที่ไม่ขายฝันเกินความเป็นจริง เป็นต้น
นอกจากนี้การสนับสุนลูกค้า หรือที่เราพูดกันติดปากคือ Customer Support นั่นเอง สิ่งนี้คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของโบรกเกอร์ที่จะทำให้ผู้คนตัดสินใจใช้บริการอยู่หรือควรย้ายเงินไปใช้โบรกเกอร์อื่นที่ดีกว่า เพราะเมื่อเกิดปัญหาใด ๆ ก็ตามที่เทรดเดอร์แก้ไขไม่ได้ เขาจะต้องสามารถติดต่อ พูดคุย กับทีม Support ให้ช่วยแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้ตลอดเวลา ดังนี้แล้วมันจึงเป็นจุดสังเกตที่เหล่าโบรกเกอร์ปลอม ๆ ที่หมายจะหลอกกินเงินในกระเป๋าผู้คนจะไม่มีสิ่งนี้อยู่ครับ
สรุป
โบรกเกอร์บนโลกนี้มีมากมายนับร้อย แต่อาจจะมีเพียงไม่กี่สิบโบรกเกอร์เท่านั้นที่เป็นของจริง จุดจับสังเหตุ 4 ข้อใหญ่ ๆ ที่อธิบายข้างต้นสามารถเป็นเครื่องมือหนึ่งที่สามารถช่วยให้คุณคัดกรองโบรกเกอร์จริง ออกจาก โบรกเกอร์ปลอม หรือ นักต้มตุ๋นได้ และโปรดหลีกเลี่ยงกลุ่มคนที่มักจะชอบบอกคุณว่า “มาลงทุนกับเราไหม เพียงแค่ลงเงินเท่านี้บาทก็จะได้ผลตอบแทนเท่านั้นบาทโดยไม่ต้องทำอะไร” คราวนี้คงจะตอบได้แล้วนะครับว่า เราสามารถ ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ยังไง 😀
“เงินเป็นของคุณ มันไม่มีใครที่รักและดูแลได้ดีเท่าตัวคุณเอง ดังนั้นอย่าฝากความหวังเอาไว้กับใคร”
สิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ ภายในเว็บของเรา
- รีวิวโบรกเกอร์ Forex ฉบับอัพเดทล่าสุด
- รีวิวกองทุน Forex ยอดนิยม
- วิธีเขียน EA ด้วย fxDreema ฟรี
- EA Forex Freemium สำหรับแจกฟรีสำหรับผู้ที่ต่อ IB กับเรา
- การทำฟาร์ม EA ด้วยระบบ Copy trade
- ห้อง Singal Free สำหรับคนชอบเทรดทอง
ทีมงาน eaforexcenter.com
"เริ่มต้นอย่างช้าๆ แต่ชัดเจน"
ให้เราได้ดูแลคุณ...
eaforexcenter.com