ฉบับย่อ
- วิธีการเลือก EA Forex ควรดูจากผลลัพธ์ทั้ง Backtest และ Myfxbook ร่วมกัน
- หากไม่มีผล Backtest และ Myfxbook แล้วสิ่งที่เราต้องพิจารณาดู คือ ประวัติการเทรดจากการเข้า MT4 ผ่าน Investor password
- Myfxbook สามารถแปลงค่าได้จริงจากการนำเข้าของผล Backtest
- สอนการนำผล Backtest เข้า Myfxbook
สวัสดีครับ... วันนี้เราก็จะมาต่อกันในส่วนของ วิธีเลือกใช้ EA Forex (Part2) กันนะครับ... โดยจากบทความที่แล้วนั้นเราก็ได้พูดคุยกันถึง “วิธีเลือกใช้ EA Forex จากการดูผลลัพธ์จาก Backtest (Part1)” หากใครยังไม่ได้อ่านผมขอแนะนำว่าให้กลับไปอ่านก่อนนะครับ ส่วนใน part ที่ 2 นี้จะมีเนื้อหาดังนี้ครับ
- การดูผลลัพธ์จาก Myfxbook และรวมถึงวิธีการตรวจสอบผลลัพธ์การทำงานของ EA Forex จากรหัส Investor
- ความลับอันดำมืดจาก Myfxbook ที่สามารถแปลงค่ามาจากการผลของการทำ Backtest ได้อีกซึ่งจะมีเนื้อหาที่เข้มข้นและดุดันอย่างไรไปรับชมกันครับ
เลือกใช้ EA Forex จากการดูผล Myfxbook
ก่อนอื่นเลยผมจะขอเริ่มจากการเลือกใช้ EA forex จากการดูผล Myfxbook ก่อนนะครับ... ค่าพารามิเตอร์ที่ผมแนะนำว่าต้องดูนั้นมีไม่มากครับแต่จะสำคัญที่สุด...
- Tracking Record Verify (หมายเลขที่ 1) คือ เมื่อมีสัญลักษณ์เช็คถูกสีเขียวปรากฏจะหมายความว่า ข้อมูลของบัญชีได้ทำการตรวจสอบแล้วว่าเป็นข้อมูลจริงครับ จากการที่นำรหัส Investor จาก Myfxbook ไปอัพเดทใน MT4 ของเราแล้วนั่นเอง
- Gain (หมายเลขที่ 2) คือ เปอร์เซ็นต์ของกำไรทั้งหมดจากเงินที่ฝากเข้าไป
- Daily และ Monthly (หมายเลขที่ 3) เปอร์เซ็นต์ของกำไรที่สามารถทำได้ต่อวัน และ ต่อเดือนครับโดยที่เราสามารถพิจารณาได้ว่าเราจะใช้ระยะเวลาเท่าไรในการคืนทุน
- Drawdown (หมายเลขที่ 3…ไม่ได้เขียนซ้ำครับ) คือ เปอร์เซ็นต์การขาดทุนสะสมจากจุดสูงสุดถึงจุดต่ำสุดในบัญชี…. โดยส่วนตัวผมชอบ Relative Drawdown มากกว่าครับ
- Profit (หมายเลขที่ 4) คือ เปอร์เซ็นต์กำไรทั้งหมดที่บัญชีนี้ทำกำไรได้ครับ
- ระยะเวลาในการทำทดสอบ (หมายเลขที่ 5) ข้อนี้สำคัญมาก ๆ ครับต้องดูด้วยครับว่ามีประวัติการเทรดที่ยาวนานแค่ไหน…ยิ่งเทรดมานานยิ่งมั่นใจในผลลัพธ์ครับโดยบางครั้งจะเห็นได้ว่าเทรดมาแรกๆก็ดีเหลือเกินหลังๆล้างพอร์ต….ซะงั้น
- Profit Factor คือ อัตราส่วนระหว่าง จำนวนการเทรดที่ได้กำไร หารด้วย จำนวนการเทรดที่ขาดทุน ซึ่งหมายความว่าหากยิ่งเยอะจะยิ่งดีครับโดยผมมองว่าควรมากกว่า 1.5 ขึ้นไป
- ประเภทบัญชี และโบรกเกอร์ จะกล่าวได้คือ เป็นอีกหนึ่งความสำคัญมาก ๆ เลยครับที่คนมักจะมองข้ามเพราะตอนนี้โบรกเกอร์แทบจะผุดขึ้นมาเต็มไปหมดเราจะต้องคัดกรองโบรกเกอร์ด้วยในระดับหนึ่งครับว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน
อีกประการคือ ประเภทบัญชีเป็นแบบ Real หรือ Demo ซึ่งสามารถบอกได้ถึงความมั่นใจใน EA ของผู้พัฒนาได้เลยครับ... เพราะคงไม่มีใครเสี่ยงใช้ EA ที่ไม่มั่นใจในประเภทบัญชี Real หรอกถูกต้องไหมล่ะครับท่านผู้ชมแต่ในทางกลับกันหากมีแต่พอร์ต Demo มาให้ดูอันนี้ต้องพิจารณาดี ๆ สักครู่ใหญ่กันเลยทีเดียวครับ
ข้อควรระวังในการดูผลจาก Myfxbook
ความลับดำมืดจากการแต่ง Myfxbook จากผล Backtest
ในหัวข้อนี้ผมขอพูดเกี่ยวกับความลับของ Myfxbook ที่หลายคนยังไม่ทราบนะครับ คือ “วิธีการนำผล Backtest เข้าสู่ Myfxbook” นั่นเองครับ และก็เกิดคำถามต่อว่าแล้วมันอันตรายอย่างไรและทำไมผมถึงต้องสอนผมจะพาไปดูขั้นตอนทีละข้อกันนะครับ
จากรูปที่ 3 จะเห็นได้ว่านี่คือผล Myfxbook ที่ได้มาจากการ Backtest นั่นเองครับ.. เราจะสังเกตได้ว่าข้อแตกต่างนั้นดูได้ยากครับเพราะมองเผิน ๆ ก็เหมือน Myfxbook ทั่ว ๆ ไป….
แต่ความน่ากลัวนั่นมันอยู่ตรงที่เราสามารถ Backtest ที่ MQ กี่ % ก็ได้ครับ เพราะเราสามารถลบข้อมูลที่ดูไม่ดีออกได้ทั้งหมดเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีที่สุดนั่นเองครับดังนั้นพอเราเอามาใส่ใน Myfxbook กราฟมันจึงออกมาดีมาก ๆ นั่นเองครับ...ซึ่งผมจะมีวิธีดูถึงข้อแตกต่างหลายประการดังนี้
และนี้ก็คือข้อสังเกตประการแรกครับจะได้ว่า รูปภาพที่ 3 เกิดจากการที่ผมคัดลอกภาพหน้าจอมาแล้วจะตัดมาเฉพาะส่วนล่างของรูปภาพที่ 4 ครับ
จากรูปที่ 5 นี้จะแสดงให้เห็นถึงข้อแตกต่างระหว่าง Myfxbook จาก 2 แหล่งนะครับ... โดยแบบทั่ว ๆ ไปที่ใช้กัน คือ แบบ Forward Test คือการทดลองทำงานจริงแบบปกติทั่วไปซึ่งถ้าหากสังเกตดูส่วนบนของทั้ง 2 แหล่งจะเห็นข้อแตกต่างอย่างชัดเจนเลยครับว่ามาจากแหล่งไหน
ในกรณีที่ง่ายที่สุดคือการขอลิงค์สำหรับ Myfxbook มาเปิดดูเองครับจะถือว่าปลอดภัยมากที่สุด…ถ้าไม่ให้ลิงค์แต่ให้มาแต่รูปแบบนี้ให้ตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนเลยครับว่าอันตราย ถึงกระนั้นหากให้มาแต่รูปดังรูปที่ 3 ก็มีข้อสังเกตได้อยู่ดีครับถึงข้อแตกต่าง วิธีการคือให้เปิด Myfxbook ของตัวเราเองขึ้นมาเทียบดูกันจะ ๆ ไปเลยครับ
จากรูปภาพด้านบนให้พิจารณาระหว่าง Myfxbook จากผลลัพธ์ทั้ง 2 แหล่งก็คือ ให้สังเกตในช่องของ Stats ของทั้ง 2 รูปนะครับจะเห็นได้ว่าทั้ง 2 รูปมีความคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน 100% นั่นเองครับ
หากมองเผิน ๆ ก็แยกไม่ค่อยออกเหมือนกันนะครับและถ้าหากตรวจสอบตามนี้แล้วปรากฏว่าหน้าต่างมีความแตกต่างกันให้พิจารณาไว้ก่อนว่า..น่าจะมาจาก Backtest แหง๊ม ๆ
ขั้นตอนการนำผล Backtest ไปยัง Myfxbook
หลังจากได้ที่ทราบถึงข้อแตกต่างแล้วผมก็จะมาสอนวิธีการนำผล Backtest เข้าสู่ Myfxbook กันนะครับ... เพราะหากใช้ให้ถูกทางแล้วมันก็มีประโยชน์มากเหมือนกันครับ..ซึ่งมันสามารถที่จะสรุปข้อมูลให้เราออกมาให้ดูง่ายสบายตา อีกทั้งยังสามารถ Backup ข้อมูลของเราเก็บไปไว้ยังเว็บ Myfxbook ไม่ให้หายไปได้อีกด้วยนั่นเองครับโดยไปดูวิธีและขั้นตอนกันเลย
อันดับแรกให้เราทำการ Backtest ให้จบก่อนนะครับ.. โดยสามารถไปดูวิธีการ Backtest แบบละเอียดได้ที่ >>>Click<<< ... หลังจากนั้นให้ทำการคลิกขวาตรงรูปด้านล่างแล้วทำการเลือก “Save as Report” แล้วทำการ Save ไปยังพื้นที่ที่ต้องการได้เลยครับแล้วเราจะได้ไฟล์สกุล .htm มานะครับ
หลังจากนั้นให้เข้าสู่เว็บไซต์ครับให้ไปส่วนของหน้า “All Strategies” แล้วไปกดเลือก “Add Strategy” ดังรูปภาพด้านบนครับ
เมื่อมายังหน้าต่าง Add Strategy ให้เราทำการ Add file ที่เราได้ทำการ Save ไว้ในขั้นตอนที่ 1 ครับ... โดยไฟล์ที่ทำการเพิ่มเข้ามาจะเป็นไฟล์ที่นามสกุล .htm นั่นเองครับหลังจากนั้นก็สามารถเพิ่ม ชื่อตนเอง และชื่อโบรเกอร์ได้ตามต้องการครับแล้วทำการกด “Add”
ระบบก็จะพามายังหน้าต่างนี้นะครับให้ทำการคลิกไปที่ชื่อ ที่เราได้ทำการตั้งค่าไว้สักครู่
หลังจากนั้นระบบก็จะพาเข้ามายังหน้าต่างผลลัพธ์ดังรูปภาพด้านบนก็เป็นอันเสร็จสิ้นครับ
เลือกใช้ EA forex ผ่าน MT4 หรือ MT5 ด้วยรหัส Investor
แน่นอนครับว่าการดูผล EA จากการ Backtest หรือ จาก Myfxbook ไม่ว่าเราจะดูละเอียดมากขนาดไหนก็ไม่สู้เท่าเข้าไปดูการทำงานจริงครับและนี้เป็นอีกวิธีที่ทางเราแนะนำว่าดีมาก ๆ ครับและผมจะพาไปดูว่ามันมีประโยชน์มากน้อยอย่างไรไปชมกันครับ
จากรูปเมื่อเราเข้ามาด้วยรหัส Investor แล้วจะสังเกตในช่องที่ 1 ก่อนครับว่าเราจะไม่มีสิทธ์ที่จะซื้อขายใด ๆ เลยซึ่งจะปลอดภัยกับเจ้าของบัญชีมาก ๆ ครับ... อีกทั้งเรายังสามารถดูตอนที่ EA กำลังทำงานได้อีกครับ และรวมไปถึงเราสามารถที่จะดูประวัติการเทรดได้ที่หมายเลข 2 ครับ
ซึ่งเราสามารถที่จะทำการโหลดประวัติการเทรดทั้งหมดของบัญชีมาดูได้ด้วยครับโดยทำการคลิก 1-3 ดังรูปภาพด้านบนตามลำดับซึ่งจะสามารถเลือกระยะเวลาได้ที่ “Custom Period” ก่อนการบันทึกได้ครับ
หลังจากนั้นประวัติการเทรดก็จะขึ้นมาดังตัวอย่างดังรูปภาพด้านบนนี้เลยครับโดยผลที่ได้ออกมาจะคล้ายคลึงกับผล Backtest อยู่พอสมควรครับซึ่งจะอ่านได้ไม่ยาก
โดยข้อมูลทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นผลลัพธ์จาก Myfxbook , Backtest และประวัติการเทรดจาก Mt4 ควรจะไปในทิศทางเดียวกันด้วยนั่นเองครับ... ถึงแม้ว่าพารามิเตอร์บางตัวอาจจะไม่ได้เท่ากันร้อยเปอร์เซนต์ก็ถือว่า ยอมรับได้เพราะสูตรการคำนวณอาจจะไม่เหมือนนั่นเองแหละครับแต่ก็ไม่ควรต่างกันมากเกินไป
“แค่ตั้งเป้าหมายเราก็จะได้รู้และหาหนทางเพื่อให้เป้าหมายสำเร็จได้ แต่จะสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์ต้องลงมือทำด้วย”
บทสรุป
สุดท้ายแล้วก็จบกับวิธีการเลือกใช้ EA Forex ฉบับ eaforexcer.com ก็สรุปได้ว่า... เมื่อเราตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ครบถ้วนแล้วตราบใดที่เป็น EA ตัวเดียวกันบัญชีตัวเดียวกัน ดังนั้นผลการ Backtest , Myfxbook และประวัติการเทรดจากรหัส Investor ควรจะไปในทิศทางเดียวกันด้วยนะครับ... และขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมและขออวยพรให้ท่านเจอ EA ดี ๆ สักตัวนะครับขอบพระคุณค้าบ
ทีมงาน: eaforexcenter
Pingback: วิธีเลือกใช้ EA Forex (Part1) - EaForexCenter