เขียน ea จากเทคนิคการเทรดของตัวเองยังไง

เขียน ea

ฉบับย่อ

  • กลยุทธ์การเทรดควรใช้ Myfxboox หรือ การทำเป็น EA แล้วนำมา Backtest เพื่อทดสอบประสิทธิภาพและนำข้อมูลไปปรับใช้พัฒนากลยุทธ์ให้ดียิ่งขึ้น
  • EA สามารถที่จะสร้างเองได้ และ สามารถที่จะจ้างมืออาชีพทำได้เช่นกัน
  • EA สร้างเองนั้นคุ้มค่าในระยะยาวเนื่องจากไม่ต้องเสียเงินจ้างผู้อื่นทำ และยังสามารถประหยัดเงินไปได้มาก หากต้องการทดสอบในหลายๆ กลยุทธ์

เปลี่ยนกลยุทธ์การเทรดให้กลายเป็น EA

สร้าง ea จากเทคนิคการเทรดของตัวเองยังไง ? … ในปี 2023 เป็นต้นมา คือ ยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในวิถีการใช้ชีวิตของคนในทุกๆ ด้าน… การเทรด Forex เองนั้นเทรดเดอร์ทั้งหลายก็มักจะมองหาวิธีใหม่ๆในการปรับปรุงประสิทธิภาพและหาวิธีการเพิ่มกำไรในการลงทุนของตัวเอง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการใช้ “Expert Advisor (EA)”

เขียน ea แบบไม่ใช้โค้ด
รูปที่ 1 เปลี่ยนกลยุทธ์ให้กลายเป็น EA ผ่าน website Fxdreema

ในทัศนะของผู้เขียนเองมองว่า ก่อนที่เราจะสร้าง EA ขึ้นมาใช้ซัก 1 ตัว เราควรจะมีกลยุทธ์การเทรดที่ดีพอสมควรครับ ซึ่งขั้นตอนการพัฒนากลยุทธ์และเปลี่ยนกลยุทธ์ไม่ใช่เรื่องง่ายก็จริง แต่หากเราพอจะจับหลักได้บ้างเราก็จะสามารถทำมันได้ โดยผู้เขียนขอบอกขั้นตอนคร่าวๆ ดังนี้ครับ

  1. วิเคราะห์, ทบทวนกลยุทธ์, สรุปเงื่อนไขการเทรด:
    • เทรดเดอร์ควรทบทวนกลยุทธ์การเทรดที่ใช้อยู่และปรับปรุงให้เหมาะสมก่อนที่จะลงมือเขียน EA Forex โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น indicator ที่ใช้, วิธีควบคุมความเสี่ยงของเงินทุนรวมถึงกำไรที่คาดหวัง, การตั้ง Take profit, การตั้ง Stop loss เป็นต้น
    • เมื่อเรามั่นใจในกลุยุทธ์แล้วจึงจะเขียนสรุปเงื่อนไขการเข้า order การปิด order ออกมาให้เป็นขั้นเป็นตอน เพื่อที่จะง่ายต่อการนำไปเขียน EA (เรามักจะเรียกวิธีนี้ว่าการสรุปแบบตรรกะ)
  1. เขียน EA Forex:
    • ในขั้นตอนนี้ไม่ได้จำกัดครับว่าเราจะสร้าง EA โดยอาศัย coding หรือ non-coding แค่ให้มันเรียบง่ายที่สุดแต่ยังคงให้ผลลัพธ์ที่ดี มันก็เปรียบดั่งแมวที่จับหนูเก่งก็มิได้จำเป็นต้องเป็นสีส้มฉันใดก็ฉันนั้น
    • ในขั้นตอนนี้ใครอยากประหยัดเวลาในการเรียนรู้การเขียน EA ใหม่ก็สามารถว่าจ้างได้ครับ โดยเอาเงื่อนไขการเข้า-ออก order และเงื่อนไขอื่นๆ เสนอ Programmer ที่ท่านไว้วางใจ (ตอนนี้ทางเราก็รับทำอยู่นะครับ การันตรีผลงานและไม่ทิ้งงานกลางคัน)
    • สนใจว่าจ้างเราเขียน EA ติดต่อได้ที่ 099-469-4249 หรือ Send messenger ที่มุมล่างขวาได้เลยครับ
  2. Backtesting และ Optimization:
    • ในขั้นตอนนี้จะเป็นกรณีที่เราทำ EA ด้วยตัวเองนะครับ คือ ก่อนที่จะนำ EA Forex ไปใช้งานจริง ควรทดสอบด้วยการ Backtest และ Forward Test ก่อน เพื่อวัดประสิทธิภาพของ EA หากพบข้อผิดพลาด หรือ ส่วนที่ต้องปรับปรุง ให้แก้ไขตามความเหมาะสม
    • จริงๆ แล้วขั้นตอนนี้เองควรใช้ 0% หรือ 100.0% tick data ในการทำ backtest นะครับ เนื่องจากมันจะให้ความสมจริงมากที่สุด
    • อีกประการนึงคือการ Optimization parameters โดยขั้นตอนนี้จะเป็นการค่า parameters ที่เหมาะสมที่สุดในการอธิบายชุดข้อมูลผ่าน EA ของเราครับ
    • EA หลายๆ ตัวไม่ได้แย่แต่กำเนิด เพียงแค่เรายังหาค่า parameters ที่เหมาะสมให้มันไม่ได้เท่านั้นเอง ซึ่งขั้นตอนการค่าเหล่านี้ทางเราก็รับทำครับสนใจก็ Send messenger มาได้เด้อพี่น้อง
  3. ติดตั้งและเริ่มใช้งาน EA Forex:
    • เมื่อทดสอบและปรับปรุง EA Forex เสร็จสิ้นแล้ว สามารถนำไปติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์หรือ Virtual Private Server (VPS) และเริ่มต้นกรใช้งาน Forex ได้เลย

ทั้ง 4 ข้อนี้.. ผู้เขียนอยากให้เทรดเดอร์ทุกท่านให้ความสำคัญกับข้อที่ 1 ให้มากที่สุดก่อนครับ เนื่องจากก้าวแรกนั้นสำคัญเสมอ และการติดกระดุมเม็ดแรกผิด กระดุมเม็ดต่อๆ ไปก็ยากที่จะถูกครับ ดังนั้นแล้วเรามาดูรายละเอียดปลีกย่อยของการวิเคราะห์กลยุทธ์การเทรดกันอีกหน่อยดีกว่าเนอะ 😀

 

วิเคราะห์กลยุทธ์การเทรด

ปัจจุบันมีกลยุทธ์การเทรดอะไรบ้าง

กลยุทธ์การเทรด Forex ที่นิยมใช้งานนั้นมีอยู่หลากหลายทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับรูปแบบสไตล์ของเทรดเดอร์ รวมไปถึงความเสี่ยงที่ยอมรับได้และเป้าหมายการเงินของแต่ละคน โดยกลยุทธ์การเทรด Forex ที่นิยมในปัจจุบันยกตัวอย่างเช่น

กลยุทธ์การเทรด
รูปที่ 2 กลยุทธ์การเทรด
  1. เทรดตามแนวโน้ม (Trend following):
    • กลยุทธ์นี้จะใช้แนวโน้มของตลาด เช่น แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) และ ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) เพื่อเข้า-ออก order ในเวลาที่เหมาะสม โดยอาจจะใช้ indicators ต่างๆ เสริมได้ด้วยเช่น เช่น Moving Averages, MACD, และ RSI เป็นต้น
  2. เทรดในกรอบหรือไซด์เวย์ (Range trading):
    • กลยุทธ์นี้คือการเทรดในช่วงราคาที่มีการแกว่งขึ้นลง โดยไม่มีแนวโน้มชัดเจน “ไม่ไปทางใดทางหนึ่ง”
  3. เทรดข่าว (News trading):
    • กลยุทธ์นี้มีการใช้ข้อมูลข่าวสารทางเศรษฐกิจและการเมือง เพื่อวิเคราะห์และเปิดตำแหน่งตามผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับคู่เงินนั้นๆ
  1. สัญญาณเทรด (Signal trading):
    • กลยุทธ์นี้อาศัยการรับสัญญาณเทรดจากผู้ให้บริการสัญญาณเทรด หรืออาจเป็นผลลัพธ์จากการวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์นั้นๆ
  2. เทรดสั้น (Scalping):
    • เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการเปิด-ปิดตำแหน่งในระยะเวลาสั้นๆ โดยมักจะวางเป้าหมายกำไรเพียงเล็กน้อย แต่จะทำซ้ำหลายครั้งตลอดวัน เพื่อสะสมกำไรจากการเทรด
    • กลยุทธ์ Scalping เป็นที่นิยมกันมากที่ในยุค 2023 เป็นต้นมา เนื่องจากปิดกำไรภายในวัน ทำให้พอร์ตไม่มีการสะสม %DD
  3. การเทรดแบบวิเคราะห์พื้นฐาน (Fundamental trading):
    • กลยุทธ์นี้เน้นการวิเคราะห์พื้นฐานของเศรษฐกิจและสภาวะการเมืองของประเทศต่าง ๆ ที่มีความสัมพันธ์กับคู่เงินที่เทรด เพื่อคาดการณ์ความแข็งแรงของสกุลเงิน

แม้ว่าจะมีกลยุทธ์การเทรด Forex หลากหลายให้เลือกใช้งาน การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมควรขึ้นอยู่กับความคุ้นเคย ทักษะการวิเคราะห์ และเป้าหมายการลงทุนของแต่ละคน รวมไปถึงความชอบและความถนัดด้วย นอกจากนั้นเทรดเดอร์ควรมีการควบคุมความเสี่ยงและการจัดการทุนอย่างมีวินัยอยู่เสมอๆ นะจ๊ะ

 

“อุดมการณ์ แนวคิด กลยุทธ์ ถ้าไม่มี ผลลัพธ์ออกมาเขาเรียกว่าขี้โม้ครับ..”

 

 

ตอนนี้คุณเทรดด้วยกลยุทธ์อะไร แล้วรู้ได้อย่างไรว่ากลยุทธ์ที่ใช้อยู่นั้นดีหรือไม่  

หลายๆ คนนั้นไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ หรือ มือเก่าแน่นอนว่าจะต้องมีกลยุทธ์ที่ตนเองชอบและมั่นใจแล้วทั้งนั้นแต่ทั้งที่มั่นใจในกลยุทธ์ตัวเองแล้วเหตุใดถึงยังขาดทุนอยู่ นั้นเป็นสาเหตุที่ถามว่า แล้วรู้ได้อย่างไรว่ากลยุทธ์ที่ใช้อยู่นั้นดีจริง โดยหลักการที่นิยมนั้นจะยกวิธีง่ายๆ ออกมากล่าวด้วยกันอยู่ 2 วิธีมีดังนี้

ฝึกทำ myfxbook
รูปที่ 3 กราฟิกแสดงผลของ Myfxbook และการทำ Backtest
  1. การวิเคราะห์จากการบันทึกสถิติการเทรดผ่าน myfxbook แล้วนำมาวิเคราะห์ปรับปรุงการเทรด

 การวิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเทรดทุกคน เพื่อให้สามารถสร้างกำไรและรักษาความสม่ำเสมอในตลาด Forex ได้ด้วยการบันทึกสถิติการเทรดผ่าน Myfxbook เป็นวิธีที่นิยมใช้ในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพและสามารถนำข้อมูลมาปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดได้ โดยใช้ข้อมูลต่างๆที่บันทึกเช่น

  1. อัตราชนะ (Win Rate):
    • อัตราชนะคือสัดส่วนของ order ที่สามารถสร้างกำไร นักเทรดควรวิเคราะห์อัตราชนะของตัวเองในระยะยาว เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  2. อัตราผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Reward-to-Risk Ratio):
    • คือสัดส่วนระหว่างกำไรที่คาดหวังและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ การวิเคราะห์อัตรานี้ช่วยให้นักเทรดมองเห็นความเสี่ยงที่ยอมรับได้
  3. ระดับผลตอบแทนขาดทุนสะสม (Drawdown; DD):
    • DD คือการขาดทุนสะสมจากจุดสูงสุดถึงจุดต่ำสุดในบัญชี นักเทรดควรให้ความสำคัญ เนื่องจากมันสามารถสะท้อนถึงความเสี่ยงที่ต้องเผชิญในการเทรด

เมื่อทราบข้อมูลค่าต่างๆมาแล้วสามารถนำไปวิเคราะห์กลยุทธ์ได้ดังนี้ :

  1. ปรับปรุงกลยุทธ์ตามสถิติ:
    • ใช้ข้อมูลที่วิเคราะห์ได้จาก Myfxbook เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการปรับค่าพารามิเตอร์ การเพิ่มหรือลดตัว indicators
  2. หาจุดอ่อนของกลยุทธ์การเทรด:
    • ควรหาจุดอ่อนของกลยุทธ์การเทรดเพื่อปรับปรุงและลดความเสี่ยง ซึ่งสามารถทำได้โดยการวิเคราะห์สถิติต่าง ๆ จาก Myfxbook
  3. ทดสอบกลยุทธ์ใหม่:
    • ทดสอบกลยุทธ์ใหม่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพกับกลยุทธ์เดิม หากประสิทธิภาพดีขึ้น ก็ควรเริ่มใช้กลยุทธ์ใหม่ในการเทรด
  4. พัฒนาทักษะการวิเคราะห์และการจัดการทุน:
    • นอกจากการปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดแล้ว ควรตั้งใจพัฒนาทักษะการวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐาน รวมถึงการจัดการทุนและควบคุมความเสี่ยงด้วย

 

  1. การสร้าง EA forex แล้วนำมา backtest

การ Backtest เป็นกระบวนการทดสอบประสิทธิภาพของ EA โดยการดำเนินการทดสอบกับข้อมูลประวัติศาสตร์ที่เคยเกิดขึ้นในตลาด Forex ในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ กระบวนการนี้ช่วยให้นักเทรด Forex สามารถรู้ว่าระบบการซื้อขายของตนมีประสิทธิภาพที่ดีหรือไม่ และสามารถให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมหรือไม่โดยการ Backtest ซึ่งมีข้อควรระวังและความสำคัญดังนี้

waka waka backtesting
รูปที่ 4 ตัวอย่างหน้าต่างแสดงการทำงานของของ Back test
  1. ความน่าเชื่อถือของข้อมูล:
    • การทำ Backtest จะต้องใช้ข้อมูลประวัติศาสตร์ที่มีความน่าเชื่อถือเพื่อให้ได้ผลการทดสอบที่มีความแม่นยำสูง
  2. ระยะเวลาที่ใช้ในการ Backtest:
    • การทดสอบระบบการซื้อขายจะต้องใช้ระยะเวลาในการ Backtest ที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลการทดสอบที่สามารถเป็นแท้จริงได้
  3. ความถูกต้องของ EA:
    • Backtest จะช่วยให้นักเทรด Forex รู้ว่าระบบการซื้อขายมีความแม่นยำสูงหรือต่ำและต้องการปรับปรุงแก้ไขอย่างไรเพื่อให้ผลการเทรดดีขึ้น
  4. ผลลัพธ์ของการทำ Backtest:
    • กระบวนการนี้ช่วยให้นักเทรด Forex สามารถรู้ว่าระบบการซื้อขายของตนมีประสิทธิภาพที่ดีหรือไม่โดยผลการ Backtest จะทราบค่าพารามิเตอร์ต่างๆ เช่น Drawdown, Winrate , และอื่นๆ เพื่อดูว่าระบบการซื้อขายนั้นมีผลตอบแทนที่ดีหรือปล่าว

 

การพัฒนากลยุทธ์การเทรดด้วยการสร้าง EA

EA สามารถพัฒนากลยุทธ์ได้ยังไง

EA จะสามารถพัฒนากลยุทธ์ได้อย่างไรนั้นเราอยากจะให้ทุกท่านลองนึกภาพตามว่าหากคุณมีกลยุทธ์การเทรดที่ท่านมั่นใจในมืออยู่แล้ว นั่นก็หมายความว่าคุณอาจจะต้องเฝ้าหน้าจอตลอดทั้งวันเพื่อที่จะมองหาจุดเข้า-ออก order

และนั่นก็หมายความว่าวันๆ นึงท่านอาจจะไม่ได้อะไรเลยนอกจากการเฝ้ามองหน้าจอและไม่ใช่ทุกครั้งไปที่ท่านจะเข้า-ออก order ได้ทัน ซึ่งตรงตามกลยุทธ์จริงๆ อีกทั้งบางครั้งยังมีอุปสรรคในการเทรดอันเกิดจากปัจจัยมนุษย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความเครียด ความกดดัน หรือแม้กระทั่งความโลภ

เทรดเสีย
รูปที่ 5 อุปสรรคในการเทรดอันเกิดจากปัจจัยมนุษย์เช่น อารมณ์ต่างๆ

EA สามารถ เข้า-ออก order ได้อย่างแม่นยำ ตรงเงื่อนไข ปราศจากอุปสรรคอันเกิดจากมนุษย์และแถมยังไม่ต้องมานั่งเฝ้าหน้าจอให้เสียเวลา และอีกประการหนึ่งที่สำคัญ

EA สามารถทดสอบกลยุทธ์กับข้อมูลที่เกิดขึ้นในอดีตได้อีกด้วยเราเรียกการทดสอบนี้ว่า Back test ซึ่งจะสามารถทดสอบได้เลยว่ากลยุทธ์นี้มีประสิทธิภาพมากจริงหรือไม่ และควรปรับปรุงแก้ไขตรงจุดไหนเพื่อพัฒนากลยุทธ์ให้ดีขึ้นยิ่งขึ้นไปอีกนั่นเอง

 

EA สามารถสร้างเองได้ไหม คุ้มหรือไม่หากจะทำเอง

การสร้าง EA ในปัจจุบันนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่ยากมากเพราะสามารถเรียนรู้ได้ง่ายเพียงแต่จำเป็นที่จะต้องสละเวลาในการเรียนรู้พอสมควรและแน่นอนว่าคุ้มค่ากว่าการไปจ้างผู้อื่นทำแน่นอน หากต้องการทดสอบในหลายๆกลยุทธ์ก็จะหยัดเงินไปได้มากเลยทีเดียว โดยจะแบ่งวิธีการสร้างได้อยู่สองวิธีคือ 1.การใช้โค๊ดภาษา MQL4 และ 2.การใช้เครื่องมือสร้าง EA ผ่านโปรแกรม Fxdreema (ไม่ใช้โค๊ด) ซึ่งวิธีหลังเป็นวิธีที่ง่ายและหาเรียนได้ไม่ยากแต่ทว่าสิ่งสำคัญนั้นผู้เขียน EA ควรจะมีพื้นฐานของ Forex มาอยู่แล้วพอสมควร

 

ถ้าไม่ทำ EA เองสามารถรับจ้างใครทำได้

การเขียน EA นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน แต่หากท่านต้องการที่จะสร้าง EA นั้นท่านสามารถที่จะจ้างมืออาชีพให้ทำได้โดยจะประหยัดเวลาไปได้มาก และไม่ต้องมานั่งเสียเวลาในการเรียนรู้ซึ่งความยากง่ายนั้นขึ้นอยู่กับ แต่ละบุคคลโดยทางทีมงานของเรานั้นมีบุคลากรที่มีคุณภาพมากมายที่จะรองรับความต้องการของท่านซึ่งสามารถติดต่อได้ที่ (คลิ๊ก)

 

บทสรุป

กลยุทธ์ในการเทรดนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่ที่ขาดไม่ได้ก็คือการทดสอบและพัฒนาประสิทธิภาพของกลยุทธ์ เพื่อที่จะได้เข้าใจว่ากลยุทธ์ที่ใช้อยู่นั้นมีประสิทธิภาพเพียงใด และสามารถที่จะพัฒนาต่อไปได้อย่างไร ซึ่งเราสามารถวัดประสิทธิภาพได้หลายวิธีด้วยกัน…. ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกผ่านทาง Myfxboox แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์และปรับแต่งกลยุทธ์ หรือ จะเป็นวิธีการสร้าง EA ขึ้นมาแล้วทำการ Backtest ก็ได้เช่นกัน โดยการสร้าง EA นั้นสามารถที่จะสร้างได้ด้วยตนเอง หรือ จะจ้างมืออาชีพทำก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่แต่ความพึงพอใจของแต่ละบุลคลครับ… หวังว่าคุณคงจะหาคำตอบของคำถาม “เขียน ea จากเทคนิคการเทรดของตัวเองยังไง” ได้แล้วใช่ไหมล่ะครับ

 

สิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ ภายในเว็บของเรา

  1. รีวิวโบรกเกอร์ Forex ฉบับอัพเดทล่าสุด
  2. รีวิวกองทุน Forex ยอดนิยม
  3. วิธีเขียน EA ด้วย fxDreema ฟรี
  4. EA Forex Freemium สำหรับแจกฟรีสำหรับผู้ที่ต่อ IB กับเรา
  5. การทำฟาร์ม EA ด้วยระบบ Copy trade
  6. ห้อง Singal Free สำหรับคนชอบเทรดทอง

ทีมงาน eaforexcenter.com

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *