รีวิว Binance ดีหรือไม่ ? น่าใช้ไหมในปี 2025

รีวิว Binance ดีหรือไม่ ? น่าใช้ไหมในปี 2024

เข้าสู่ศตวรรษ 21 ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทรนการรลงทุนที่มาแรงที่สุดของยุคนี้คือ คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency)  ทำให้ Binance ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2017 ได้ขึ้นเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มชั้นนำระดับโลกในอุตสาหกรรมการซื้อขายเหรียญสกุลเงินดิจิทัล

ในบทความนี้ เราจะข้ามขั้นตอนการสมัครและลงทะเบียนไป แต่เราจะเจาะลึกเกี่ยวกับการใช้งานแพลตฟอร์มBinanceสำรวจฟีเจอร์การซื้อขาย UX และ UI รวมไปถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือโดยรวม หากใครยังไม่เคยลองใช้ หรือกำลังตัดสินใจเริ่มต้นใช้งาน รับรองว่าบทความนี้มีประโยชน์แน่นอน


ความสวยงาม Binance ดีไซน์ UX / UI

เรามาเริ่มในส่วน UX และ UI ที่คุมธีมสีหลัก 3 สี คือ เหลือง ดำ และขาว หลังจากทำการ Log-in เข้ามาแล้ว ที่หน้าหลักจะโล่ง ๆ สบายตา ไม่ได้ยัดทุกอย่างไปที่หน้าหลักอย่างเดียว ถ้าเลื่อนลงมาเรื่อย ๆ จะมีกระดานราคาเหรียญยอดนิยมวิ่งสลับไปมา โฆษณาหรือแคมเปญของBinanceซึ่งก็ไม่ได้เป็น pop-up ให้รกตา จัดไว้เป็นระเบียบ

รูปที่ 1 แต่ละหน้ามีการจัดสรรสัดส่วนการวางได้เป็นระเบียบ แต่หัวข้อในแถบเมนูบาร์ด้านบนมีเยอะ
รูปที่ 1 แต่ละหน้ามีการจัดสรรสัดส่วนการวางได้เป็นระเบียบ แต่หัวข้อในแถบเมนูบาร์ด้านบนมีเยอะ

เลื่อนลงมาอีกจะมีช่องทางการดาวน์โหลดติดตั้งBinance สำหรับหลายระบบปฏิบัติการ เช่น Mac OS, Windows, Linux, Andriod APK เป็นต้น และช่องทางการติดต่อต่าง ๆ เช่น Live Chat ตลอด 24 ชั่วโมง กลุ่มคอมมูนิตี้ที่จะคอยพูดคุยและถามตอบปัญหากัน

ในแถบ Manu Bar ด้านบนจะมีหัวข้อและรายละเอียดค่อนข้างมาก แต่จัดวางไว้ได้อย่างเป็นระเบียบตามหมวดหมู่ พร้อมทั้งมีรูปไอคอนเล็ก ๆ ที่จะเชื่อมโยงกับหัวข้อนั้น เราสามารถกดเข้าไปดูแต่ละอย่างได้ว่าคืออะไรบ้าง แต่ละหน้าก็จัดสัดส่วนได้อย่างสะอาดตา

นอกจากนี่ยังสามารถเลือกธีมสว่าง (Light Mode) หรือ ธีมมืด (Dark Mode)ได้ ส่วนตัวแล้วผู้เขียนชอบใช้ Dark Mode มากกว่า เพราะว่ามันเท่ดี และยังสามารถเลือกเปลี่ยนหน่วยสกุลเงินที่จะแสดงได้อีกด้วย หนึ่งในนั้นมีเงิน ไทยบาท (THB) แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ Binance ได้ยกเลิกการใช้ภาษาไทยไปแล้ว ทำให้เราต้องใช้ภาษาอังกฤษแทน


การฝากถอนเงินบาท

เนื่องจากBinance เป็นแพลตฟอร์มของต่างประเทศ สกุลเงินที่ใช้หลักจึงจะเป็นเงินดอลลาร์ คำถามคือ เราถือเงินเฟียต (fiat) ที่เป็นเงินบาทอยู่ แต่จะแลกเป็นเงินดอลลาร์เพื่อทำการซื้อขายใน Binance ได้อย่างไร?

รูปที่ 2 มือใหม่อาจจะสับสนเล็กน้อย แนะนำให้ดู Youtube และเริ่มฝากจากเงินจำนวนน้อยก่อน
รูปที่ 2 มือใหม่อาจจะสับสนเล็กน้อย แนะนำให้ดู Youtube และเริ่มฝากจากเงินจำนวนน้อยก่อน

P2P (Peer to Peer)

P2P  หรือการเแลกเปลี่ยนเงินระหว่างบุคคล จะช่วยตอบโจทย์คำถามนั้นได้ วิธีการนั้นไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อน เพียงแค่ไปตามขั้นตอนดังนี้ เมนูบาร์ด้านบนไปที่ Trade >>> P2P >>> เลือกสกุลเงินที่ต้องการจะซื้อ เป็น USDT (หรือจะสกุลอื่นก็ได้ เช่น BNB BTC BUSD ETH) >>> เลือก Fiat เป็น THB >>> เลือกวิธีการจ่ายเงิน (Payment) ได้ทั้งโอนเงินผ่านธนาคาร LinePay TrueMoney หรือ ShopeePay ก็ได้ >>> ใส่จำนวนเงิน THB ที่เราต้องการจะแลก >>> กด Search

จากนั้นจะมีลิสต์รายการที่เราจะเรียกว่า ร้านค้า ตั้งขายเงิน THB เรียงลงมาอยู่ เราสามารถเลือกร้านที่ต้องการซื้อ โดยคำนึงจาก

  • มีเครื่องหมายติ๊กถูกสีเหลืองที่รับจาก Binance
  • จำนวน Order ที่ทำได้แล้ว (ยิ่งเยอะยิ่งน่าเชื่อถือ)
  • เปอร์เซ็นต์ Order ที่สำเร็จ (100% ถือว่าสำเร็จทุก Order แปลว่าดีมาก)
  • เรทราคาที่ตั้งขาย (ยิ่งเรทต่ำยิ่งดี เพราะเราจะได้จำนวนสกุลเงินหลายทางเยอะขึ้น)

ในการถอนเงินบาทออกมาก็ทำในลักษณะเดียวกัน แต่แค่เปลี่ยนจากการซื้อ (ใช้เงินบาทซื้อเหรียญคริปโท) เป็นการขาย (ขายคริปโทเพื่อรับเงินบาท) แทน ทางร้านค้าก็จะโอนเงินบาทเข้ามาในบัญชีที่เราได้ผูกไว้กับ Binance

ซึ่งร้านหรือคนที่รับทำการซื้อขายตรงนี้ก็จะเป็นคนที่มีบัญชีธนาคารท้องถิ่น เช่นถ้าแลกเงิน THB-USDT ร้านค้าที่ตั้งรับซื้อขายส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นคนไทย ที่มีบัญชีธนาคารที่ใช้ในประเทศไทย หรือ CNY-USDT ร้านค้าที่ตั้งรับซื้อขายก็จะเป็นคนจีน ที่มีบัญชีธนาคารที่ใช้ในประเทศจีนนั่นเอง

ข้อดีของ P2P คือ

  • มีสกุลเงินที่หลากหลาย เพิ่มความสะดวกในการซื้อขาย
  • เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบ Escrow และการให้คะแนนของผู้ใช้งาน
  • สภาพคล่องสูง และเรทราคาที่แข่งขันได้
  • ระบบการยืนยันตัวตน เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือ และรักษาแวดล้อมความปลอดภัยในการซื้อขาย

ข้อเสียของ P2P

  • บางประเทศ หรือบางพื้นที่ในประเทศยังไม่สามารถใช้งานได้ อาจจะเพราะขัดกับกฎหมายประเทศ หรือกฎหมายท้องถิ่น แต่อาจจะไม่เป็นปัญหาสำหรับประเทศไทย
  • ถึงแม้จะมีระบบ Escrow Service แต่ก็ยังมีความเสี่ยงในการเจอร้านค้าที่ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งอาจจะนำพาไปสู่การโกงได้ ป้องกันด้วยการดูจำนวน Order และ เปอร์เซ็นต์ที่สำเร็จ
  • ตัวเลือกการจ่ายเงินอาจจะยังมีไม่มากเมื่อเทียบกับการเงินแบบดั้งเดิม แต่สำหรับบ้านเราแค่โอนผ่าน ธนาคารได้ก็โอเคแล้ว
  • ความผันผวนของตลาด ที่ส่งผลต่อเรทราคาในการซื้อขาย

Express

วิธีนี้จะง่ายกว่า P2P คล้ายกับการ Convert หรือ Swap เพียงเลือกสกุลเงินต้นทาง และสกุลเงินปลายทางที่ต้องการซื้อขาย แล้วซื้อขาย ซึ่งกระบวนการชำระเงินหรือรับเงินก็จะเหมือนกับ P2P ข้อดีและข้อเสียก็จะเหมือนกันกับ P2P แต่จะมีข้อเสียอีกอย่างคือ เรทที่ซื้อขายอาจจะแพงกว่าปกติ


การเทรดเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี

การเทรดคริปโทเคอเรนซีใน Binance นั้นค่อนข้างมีความหลากหลาย รองรับนักเทรดและนักลงทุนได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น

รูปที่ 3 สำหรับมือใหม่ให้เริ่มต้นที่เทรด Sopt ก่อน Cross3x และ Isolated 10x ยังไม่มีความจำเป็น แต่ศึกษาไว้ก่อนได้
รูปที่ 3 สำหรับมือใหม่ให้เริ่มต้นที่เทรด Sopt ก่อน Cross3x และ Isolated 10x ยังไม่มีความจำเป็น แต่ศึกษาไว้ก่อนได้

Spot Trading

เป็นการเทรดซื้อขายทั่วไป ที่จะมีการซื้อขายเหรียญกันตามราคาตลาดที่อ้างอิงจากกราฟราคา ซึ่งภายในการเทรดแบบ Spot เองนั้นก็จะแยกย่อยออกไปอีก 3 รูปแบบการซื้อขาย คือ

  1. Spot Market ที่เมื่อกดซื้อหรือขาย จะได้ราคา ณ วินาทีที่กดซื้อขาย
  2. Limit Market เป็นการตั้งรับ และตั้งขายในปริมาณ และราคาที่เรากำหนด
  3. Stop Limit แบ่งเป็นฝั่ง Buy และฝั่ง Sell สามารถช่วยในการ Take Profit และ Stop Loss

Future

เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่สามารถให้เราใช้ Laverage ในการใช้เงินปริมาณน้อยในการเทรด แต่ได้กำไรมาก (ความเสี่ยงก็มากเช่นกัน) และการเทรดแบบ Future นั้นสามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้น และตลาดขาลง

Option

สาย Put และ Call ก็สามารถมาเล่นที่ Binance ได้


Binance Earn

นอกเหนือจากการเทรดแล้วBinance ได้เตรียมฟังก์ชัน รูปแบบการสร้างกำไรอื่น ๆ ไว้ให้นักเทรดและผู้ใช้งานได้มาใช้กัน โดยที่ Binance Earn คือการนำเหรียญที่เราถืออยู่ ไปฝาก หรือทำตามกระบวนการ เพื่อรับผมตอบแทนที่สามารถสร้าง Passive Income ได้กับผู้ใช้งานได้ ถือว่าเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจมากทีเดียว

รูปที่ 4 เราไม่จำเป็นต้องลงทุนในทุกบริการที่ Binance มี แต่เลือกลงทุนเฉพาะที่เหมาะกับเรา
รูปที่ 4 เราไม่จำเป็นต้องลงทุนในทุกบริการที่ Binance มี แต่เลือกลงทุนเฉพาะที่เหมาะกับเรา

เมนูใน Binance Earn นั้นจะมีอะไรบ้าง เราขออธิบายแต่ละเมนูไว้สั้น ๆ ดังนี้

Saving

แบ่งเป็น Flexible คือถอนออกเมื่อไหร่ก็ได้ และ Locked คือต้องฝากไว้ตามจำนวนวันที่กำหนด ไม่สามารถถอนออกได้ก่อน แต่ผลตอบแทนจะมากขึ้นตามระยะเวลาที่ฝาก

Staking

เป็นการฝากเพื่อทำไปทำ Proof of Stake  หลักการคล้ายกับ Saving แต่ต่างกันตรงที่เราอาจจะไม่สามารถฝากได้ทุก Pool เพราะต้องดูว่ามูลค่าของ Pool เต็มแล้วหรือยัง และสามารถถอนออกเมื่อไหร่ก็ได้ แต่หากถอนก่อนเวลาที่กำหนดจะไม่ได้รับดอกเบี้ยตามอัตราที่เขียนไว้

Launchpad

สามารถเอาเหรียญที่กำหนดไว้มา Stake แล้วรับผลตอบแทนเป็นเหรียญตัวใหม่ที่กำลังจะถูกลิสต์ (Listed) ขึ้นกระดาน แต่จะยังไม่สามารถขายเหรียญที่ได้รับมาจนกว่าระยะเวลาของ Pool นั้นจะจบลง และเหรียญได้ถูก Listed ขึ้นกระดาน

BNB Vault

ข้อดีคือเป็นตัวช่วยในการกระจายการลงทุน เพราะ BNB Vault จะนำเหรียญ BNB ของเราไปกระจายตามเมนู Earn ต่าง ๆ เช่น Staking, Saving, Launchpool เป็นต้น

Defi-Farming

ฝากคู่เหรียญที่กำหนดไว้ในแต่ละ Pool เพื่อรับผลตอบแทนเป็นค่าธรรมเนียมที่จะเป็นหนึ่งในคู่เหรียญนั้น หรือเหรียญอื่น ๆ ที่กำหนด เมื่อมีผู้ใช้งานอื่นมาทำการแลกเปลี่ยน (Swap) ระหว่างคู่เหรียญนั้น


ข้อดี

  1. มีจำนวนเหรียญเยอะประมาณ 360 สกุลเหรียญ และ 1,410 คู่เหรียญให้นักเทรดและนังลงทุนเลือก
  2. มีสภาพคล่อง (Liquidity) สูงมาก เพราะติด Top 10 กระดานระดับโลก ทำให้การซื้อขายรวดเร็ว และราคาใกล้เคียงตลาดมากที่สุด
  3. มีการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง มี 2FA การจัดเก็บเงินแบบ Cold Wallet  และเข้ารหัสต่าง ๆ เพื่อปกป้องบัญชีผู้ใช้และทรัพย์สินของผู้ใช้งาน
  4. มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จาก มีการออกฟังก์ชัน หรือกิจกรรมใหม่ ๆ อยู่ตลอด

ข้อเสีย

  1. ข้อจำกัดด้านกฎหมายในบางพื้นที่ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดข้อจำกัดให้บริการแก่ผู้ใช้ในพื้นที่นั้น เช่น อาจจะใช้งานบางฟังก์ชันไม่ได้
  2. ความล่าช้าของ Custpmer Support สาเหตุอาจมาจากมีผู้ใช้งานจากทั่วโลกนั่นเอง แต่ส่วนตัวแล้วผู้เขียนยังไม่เจอปัญหาในด้านนั้น
  3. มีเมนู ฟังก์ชันต่าง ๆ จำนวนมาก อาจจะสร้างความสับสนให้มือใหม่ได้ ต้องใช้เวลาในการศึกษา

สรุป

ที่ได้กล่าวไปข้างบนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของฟีเจอร์ ฟังก์ชันการใช้งานที่ถูกใช้อยู่เป็นส่วนใหญ่ ยังมีอีกหลายอย่างที่ Binance สามารถทำได้

สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่า ประสบการณ์และความคิดเห็นเกี่ยวกับ Binance อาจแตกต่างกันไปตามผู้ใช้ ในบทความนี้เป็นเพียงแค่หนึ่งในความคิดเห็นของผู้ใช้งานจริงในแง่มุมทั่ว ๆ ไป ผู้ที่คิดจะเริ่มต้นใช้งาน ควรศึกษาต่อด้วยตนเอง และพิจารณาจากความเหมาะสมและความพอใจของตัวเอง ผู้ที่ใช้งานอยู่แล้วควรอัปเดตข่าวสารใหม่ ๆ เป็นประจำ     

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *