เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่เข้ามาในวงการเทรด และการลงทุนคริปโทเคอเรนซีเพื่อต้องการมีสภาพคล่องทางการเงินที่มากขึ้น หรืออาจจะถึงขั้นมีอิสรภาพทางการเงิน และเริ่มศึกษาเกี่ยวกับเทคดนิคกราฟแท่งเทียน การวิเคราะห์ตลาด รูปแบบพฤติกรรมของกราฟ ทั้งเรียนด้วยตัวเอง เรียนกับโค้ช ลงคอร์สเรียน
แต่ก่อนที่จะไปเรียนถึงขั้นนั้นได้ พื้นฐานแรกเริ่มที่สุดของการเทรดและลงทุนคริปโทเคอเรนซีนั้นก็คือ Money Management ฉบับการเทรดคริปโต ที่ถือเป็นการปรับความคิด และ Mindset ของเราก่อนที่จะเริ่มเข้าไปลงทุนไม่ว่าในวงการไหนก็ตาม
แล้วทำไม Money Managent ถึงได้สำคัญมากขนาดนั้น? เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันในบทความนี้ได้เลย
Money Management ฉบับการเทรดคริปโต คืออะไร ?
Money Management เมื่อแยกออกมาจะได้สองคำ คือ Money หมายถึง เงิน และ Management หมายถึง การจัดการ หรือการบริหาร เมื่อนำมารวมกันจะหมายถึง การบริหารเงินสำหรับการลงทุนอย่างเป็นระบบ
ซึ่ง ระบบ ที่ว่าประกอบด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง อาจจะมีมากหรือน้อยแล้วแต่แต่ละที่ได้อธิบายไว้ แต่ eaforexcenter ขอสรุปไว้เป็นหัวข้อดังนี้
1.การจัดสัดส่วนเงินเพื่อการลงทุน
หลาย ๆ ที่อาจจะเคยบอกไว้ว่าให้ใช้ 10%-25% ของพอร์ทในการลงทุนต่อสินทรัพย์หนึ่งตัว ซึ่งจริงในความเป็นจริงแล้วไม่ได้มีกฎตายตัวว่าต้องเป็น 10%-25% อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้ขึ้นอยู่กับเหรียญที่เราจะเลือกลงทุน และถือเป็นการกระจายความเสี่ยง เพื่อไม่ให้เงินของเราจมไปกับเหรียญเหรียญหนึ่งมากเกินไป ในกรณีที่เหรียญมีมูลค่าลดลงไป
ตัวอย่างเช่น เงินในพอร์ทเรามี 10,000 บาท เราเอาจำนวนเงินทั้งหมดนั้นไปซื้อเหรียญ SHIB (Shuba Inu) ทั้งหมดเลย อยู่ดี ๆ เหรียญ SHIB อาจจะมีมูลค่าลดลงไปถึง 50% ทำให้เงินของเราจาก 10,000 จะเหลือ 5,000 หรือขาดทุนมากถึง 50%!!!
ในกรณีเดียวกันนั้นเอง เราอาจจะแบ่ง 2,000 (20%) ไปซื้อเหรียญ SHIB และมูลค่าเหรียญลดลงมา 50% ทำให้เงินของเราจาก 2,000 จะเหลือ 1,000 หมายความว่ามูลค่าของพอร์ทรวมของเราจะเหลือ 9,000 บาท หรือขาดทุนแค่ 10% การจัดสัดส่วนเพื่อการกระจายความเสี่ยงนี้เองจะเชื่อมไปสู่ข้อถัดไป คือ
2.การควบคุมความเสี่ยง
การความคุมความเสี่ยง เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราสามารถรักษาเงินต้นของเราได้มากขึ้น ด้วยสิ่งที่เรียกว่า Stop Loss คือ การจำกัดการขาดทุนในการลงทุนหรือการเทรดแต่ละครั้งว่าเรายอมขาดทุนในครั้งนั้นได้มากสุดกี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตัวเลขนี้อาจจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละคน ยกตัวอย่างจากหัวข้อข้างบน
ในพอร์ทมีเงิน 10,000 บาท แบ่งมาซื้อเหรียญ SHIB 2,000 บาท และมูลค่าเหรียญลดลงไป 50% ซึ่งในความเป็นจริงเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะลงไปที่เท่าไหร่ แต่เราตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 10% เมื่อราคาเหรียญลดลงมา 10% (คิดเป็น 200 บาท) จากจุดที่เราซื้อ มันจะทำการขายเหรียญ SHIB ทิ้งทั้งหมด เพื่อนำเงินกลับคืนมาในจำนวน 1,800 บาท ซึ่งย่อมดีกว่าการปล่อยให้เงินของเราหายไป 50% ใช่ไหมล่ะ
3.วางแผนการลงทุนในทุกครั้ง
การวางแผนการลงทุน คือ มีแผนการรองรับ หรือการแก้มือเมื่อการลงทุนไม่เป็นไปตามแผนแรกที่ตั้งไว้ ซึ่งก็จะมีความสอดคล้องกับการควบคุมความเสี่ยง ยกตัวอย่างเดิมด้วยเหรียญ SHIB
เมื่อเราตั้ง Stop Loss ไว้ และขาดทุนที่ 10% (เหลือเงิน 1,800 บาท) แต่ราคายังคงลงไปถึง 50% จากจุดที่ซื้อ เราอาจจะนำเงินที่เหลือ 1,800 นั้นมาทำการช้อนซื้อในราคาที่ต่ำกว่า และนำไปขายเมื่อมูลค่าเหรียญสูงขึ้น ก็จะสามารถได้เงินทุนคืน และอาจจะทำกำไรเพิ่มเติมได้อีกด้วย
หรือเราอาจจะทำการ แบ่งไม้ คือซื้อในหลาย ๆ จุดราคา เช่น เงิน 2,000 ที่เราแบ่งมา เราจะไม่ซื้อในครั้งเดียว แต่จะแบ่งซื้อ 2-3 ครั้งเพื่อการซื้อไล่ราคาในแต่ละช่วง เช่น ซื้อที่ราคา $1 1,000 บาท เมื่อราคาตกลงมาที่ $0.5 ก็ซื้อเพิ่มอีก 1,000 บาท เพื่อเป็นการถัวเฉลี่ย หากราคากลับไปที่ $1 ไม้แรกที่เราซื้อไปเท่าทุนไม่ได้กำไร แต่ไม้ 2 ที่ซื้อไว้จะได้กำไรนั่นเอง
ทำไมเราถึงต้องมี Money Management
Money Mangment เป็นสิ่งที่ไม่ใช่แต่ควรมี แต่ต้องมีในตัวนักเทรดและนักลงทุนทุกคน โดยเฉพาะมือใหม่ที่พึ่งเริ่มต้นยิ่งต้องทำความเข้าใจ เพราะเราอยากย้ำเตือนให้มือใหม่ฟังเสมอว่า การรักษาเงินต้นนั้นสำคัญกว่าการทำกำไรเสมอ
ลองสังเกตดูว่าตัวเองเป็นแบบนี้หรือไม่ คือ ในช่วงเวลาที่เรามี Win Rate สูง หรือเราสามารถทำกำไรได้บ่อยมากกว่าขาดทุน ซึ่งก็เหมือนจะเป็นเรื่องดี แต่ถึงจะมีจำนวนการทำกำไรที่มากกว่าแต่จำนวนเงินที่ได้กลับไม่มากตาม ในทางกลับกัน ถึงจะขนาดทุนจำนวนครั้งน้อยกว่า แต่เมื่อรวมกันแล้วจำนวนเงินนั้นอาจจะเท่ากันหรือว่ามกกว่ากำไรที่ทำมาด้วยซ้ำ
Money Mangment นี้เองที่จะช่วยแก้ปัญหาตรงนั้นได้ และถึงแม้จะเป็นเรื่องแรก ๆ ที่ควรรู้และทำความเข้าใจ แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากที่จะทำได้ เพราะต้องต่อสู้กับความโลภในใจของตัวเอง จึงเป็นเรื่องที่มือใหม่ หรือแม้ผู้มีประสบการณ์บางคนเองยังต้องตกหลุมพรางนี้อยู่บ่อยๆ Money Mangment จึงจำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ การฝึกฝน และปรับความคิดอยู่เป็นประจำ อาจจะใช้เวลามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละคน
สรุป
การศึกษาเรื่องเทคนิค หรือการวิเคราะห์นั้นก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่นั่นคือหลังจากที่เรามีความเข้าใจในเรื่องของ Money Mangment เสียก่อน บางคนอาจโฟกัสถึงเรื่องการทำกำไร ซึ่งก็ไม่ผิด แต่อาจจะลืมเรื่องง่าย ๆ การบริหารการเงินไป โดนความโลภครอบไง ทนแดงได้ ทนเขียวไม่ได้
ทุกอย่างต้องมีการฝึกฝน และลงมือทำ eaforexcenter ขอเป็นกำลังใจให้นักเทรดและนักลงทุนทุกคนในการฝึกฝนต่อไป รักษาเงินต้นให้ได้มากที่สุด และค่อย ๆ สร้างกำไรอย่างยั่งยืน
"เริ่มต้นอย่างช้าๆ แต่ชัดเจน"
ให้เราได้ดูแลคุณ...
eaforexcenter.com